เสือใต้ฟัดสิงห์หนุ่ม รับปีใหม่บุนเดสฯ

ซอคเกอร์

คืนวันศุกร์นี้บุนเดสลีกากลับมาเตะกันเป็นนัดแรกของปี 2022 ทำให้ทั้ง 4 ลีกใหญ่ยุโรปเดินหน้ากันต่อครบครัน ส่วนเอฟเอ คัพ ก็เริ่มเปิดฉากรอบสาม ที่จะมีทีมจากพรีเมียร์ลีกร่วมด้วย แม้จะมีแมตช์แข่งขันไม่เยอะเท่าไหร่ แต่รับรองสนุกทั้งนั้น

วันศุกร์ที่ 7 มกราคม 2565

เอฟเอ คัพ อังกฤษ

รอบสาม

สวินดอน ทาวน์-แมนเชสเตอร์ ซิตี้สวินดอน ทาวน์ จากลีก ทู เปิดสนามเดอะ เคาน์ตี กราวด์ รับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากพรีเมียร์ลีก

เส้นทางที่ผ่านมาสวินดอนเริ่มจากรอบแรกบุกชนะ ครูว์ อเล็กซานดรา 3-0 จากนั้นรอบสองบุกชนะ วอลซอลล์ 2-1 ส่วน แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมวางประจำรอบนี้

ผลงานในถ้วยนี้ที่ผ่านมาสวินดอนยังไม่เคยก้าวถึงแชมป์ ทำได้ดีที่สุดเพียงรอบรองชนะเลิศ ฤดูกาลที่แล้วจอดป้ายแค่รอบแรก ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ เคยได้แชมป์มาแล้ว 6 สมัย ฤดูกาลก่อนตกรอบรองชนะเลิศ

เช็กฟอร์มเกมลีก 5 แมตช์หลังสุด สวินดอนเสมอแฮร์โรเกต ทาวน์ 1-1 (เหย้า), แพ้ เลย์ตัน โอเรียนต์ 1-4 (เยือน), แพ้ แบร์โรว์ 0-2 (เยือน), เสมอ สตีฟเนจ 0-0 (เหย้า), ชนะ นอร์ทแฮมป์ตัน ทาวน์ 5-2 (เหย้า)

ด้าน แมนฯ ซิตี้ ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 7-0 (เหย้า), ชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 4-0 (เยือน), ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 6-3 (เหย้า), ชนะ เบรนต์ฟอร์ด 1-0 (เยือน), ชนะ อาร์เซนอล 2-1 (เยือน)

คู่นี้ห่างหายจากการพบกันมานาน หนล่าสุดต้องย้อนไปตอนที่ทั้งคู่ต่างยังอยู่ลีกระดับ 2 ของประเทศ ซึ่งขณะนั้นเรียกว่าดิวิชั่น 1 แมนฯ ซิตี้ ชนะในบ้าน 3-0 และชนะเกมเยือน 2-0

คาดว่าเจ้าบ้านจะจัด แฮร์รี แม็กเคอร์ดี, ไทรีซ ซิมพ์สัน, หลุยส์ รีซ ลงตัวจริง ส่วนทีมเยือนคงนำโดย ฟิล โฟเดน, กาเบรียล เชซุส, แจ๊ก กรีลิช

ศักยภาพคู่นี้ยังห่างชั้นกันเกินไป ตัวจริงของ สวินดอนยังเกรดด้อยกว่าตัวสำรอง แมนฯ ซิตี้ ชัดเจน ยังเชื่อว่าทีมเยือนน่าชนะผ่านเข้ารอบต่อไปไม่ยาก

บุนเดสลีกา เยอรมนี

บาเยิร์น มิวนิก-โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัก – แมตช์เปิดฉากปี 2022 ของลีก “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก เปิดสนามอัลลิอันซ์ อารีนา รับการมาเยือนของ “สิงห์หนุ่ม” โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัก

โดยผ่านมาแล้ว 17 นัดเท่ากัน บาเยิร์น ชนะ 14 เสมอ 1 แพ้ 2 เก็บได้ 43 คะแนน นำจ่าฝูง ส่วน มึนเชนกลัดบัก ชนะ 5 เสมอ 4 แพ้ 8 มีอยู่ 19 คะแนน ยึดอันดับ 14

เช็กฟอร์มเกมลีก 5 แมตช์หลังสุด บาเยิร์น ชนะ อาร์มิเนีย บีเลเฟลด์ 1-0 (เหย้า), ชนะ โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ 3-2 (เยือน), ชนะ ไมนซ์ 2-1 (เหย้า), ชนะ สตุตการ์ต 5-0 (เยือน), ชนะ โวล์ฟสบวร์ก 4-0 (เหย้า)

ด้าน มึนเชนกลัดบัก แพ้ โคโลญจน์ 1-4 (เยือน), แพ้ ไฟรบวร์ก 0-6 (เหย้า), แพ้ ไลป์ซิก 1-4 (เยือน), แพ้ไอน์ทรักต์ แฟรงก์เฟิร์ต 2-3 (เหย้า), เสมอ ฮอฟเฟนไฮม์ 1-1 (เยือน)

สถิติพบกันเอง 5 ครั้งหลัง ผลัดกันชนะฝั่งละ 2 นัด เสมอกันอีก 1 นัด เกมนี้ทั้งคู่เจอกันในลีกไปแล้ว 1 นัด เจ๊ากันบ้าน มึนเชนกลัดบัก 1-1 และยังเจอกันใน เดเอฟเบ โพคาล รอบสอง มึนเชนกลัดบัก เปิดบ้านถล่ม 5-0

ความพร้อมนัดนี้ บาเยิร์น จะขาด โยซิป สตานิซิช (บาดเจ็บ), คิงสเลย์ โกม็อง, ลูกัส แอร์ก น็องเดซ, มานูเอล นอยเออร์, ต็องกีย์ นิยองซู, โอมาร์ ริชาร์ดส์, โกร็องแต็ง โตลิสโซ (ติดโควิด-19) เอริก มักซิม ชูโป-โมติง, บูนา ซาร์ (ภารกิจทีมชาติ)

ส่วนมึนเชนกลัดบักชวดใช้งาน จอร์แดน เบเยอร์, โยนาส ฮอฟมันน์ (บาดเจ็บ), คีแนน เบนเน็ตส์, มามาดู ดูกูเร, โจ สคัลลี, เดนิส ซากาเรีย (ติด โควิด-19) รามี เบนเซไบนี (ภารกิจทีมชาติ)

เกมนี้คาดว่าเจ้าบ้านจะวางหมาก 4-2-3-1 สเวน อูลไรก์ : แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์, ดาโยต์ อูปาเมกาโน, นิคลาส ซูเล, อัลฟอนโซ เดวิส : โยซัว คิมมิช, เลออน โกเรตซ์กา : แซร์ช กนาบรี, โธมัส มุลเลอร์, เลอรอย ซาเน : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี

ขณะที่ทีมเยือนคงใช้แผน 4-2-3-1 ยานน์ ซอมเมอร์ : สเตฟาน ไลเนอร์, มัตธิอัส กินเตอร์, นิโก เอลเวดี, ลูกา เน็ตซ์ : คริสตอฟ คราเมอร์, มานู โคเน : พาทริก แฮร์มันน์, ลาร์ส สตินเดิล, มาร์กุส ตูราม : บรีล เอ็มโบโล

บาเยิร์นกำลังฟอร์มดีก็จริง แต่ช่วงพักเบรกอาจทำให้นักเตะขาดความพร้อม แถมสภาพทีมก็ไม่ค่อยสมบูรณ์ด้วย ถ้า มึนเชนกลัดบักมาเน้นความรัดกุมเต็มที่ก็มีสิทธิ์ลุ้นแบ่งแต้มได้เลย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน