‘มาครง’ไม่ทน-ไล่บี้คนเมินวัคซีน – การ์เดียนรายงานวันที่ 6 ม.ค. ถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่หวนระบาดหนักในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะยุโรป นายโอลิวิเยร์ เวราน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศส แถลงว่าพบผู้ป่วยใหม่ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาอีก 332,252 คน ถือเป็นจำนวน ผู้ติดเชื้อรายวันเกินสามแสนคนเป็นครั้งแรกของประเทศ และสูงเป็นประวัติการณ์ของฝรั่งเศสนับตั้งแต่เผชิญหน้ากับไวรัสมรณะตั้งแต่ปี 2563 ส่งผลให้ยอดสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 10.9 ล้านคน และเสียชีวิตแล้ว 124,809 ราย

ทางการฝรั่งเศสระบุอีกว่าปัจจัยหลักที่ทำให้อัตราการระบาดเพิ่มขึ้นคือสายพันธุ์โอมิครอน แม้รายงานส่วนใหญ่ระบุว่าโอมิครอนเป็นสายพันธุ์ที่ไม่รุนแรงเมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดลตา แต่ตัวเลขผู้ป่วยโควิดในแผนกผู้ป่วยหนัก (ไอซียู) เพิ่มเป็น 3,695 คน และมากกว่า 20,000 คนยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาลทั่วประเทศ นับเป็นจำนวนผู้ป่วยโควิดที่ต้องแอดมิตสูงที่สุดในรอบกว่า 7 เดือน ตั้งแต่เดือนพ.ค.2564

ด้านประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ยังยืนกรานว่าจะไม่ทนกับคนที่ละเลยการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และจะทำให้คนกลุ่มนี้ใช้ชีวิตยากขึ้นจนต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนในที่สุด จากบทสัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เลอปารีเซียง ประธานาธิบดีมาครงเรียกคนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนว่าเป็นผู้ไม่มีความรับผิดชอบและไม่มีค่าคู่ควรที่จะเป็นพลเมืองชาวฝรั่งเศส

วันเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขอิตาลีแถลงว่าตัวเลขผู้ป่วยใหม่เมื่อวันที่ 5 ม.ค. พุ่งสูงถึง 189,109 คน มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ของประเทศ เช่นเดียวกับตุรกีที่พบผู้ติดเชื้อใหม่ 66,467 คน โปรตุเกส 39,570 คน เนเธอร์แลนด์ 24,000 คน สวีเดน 17,320 คน และอิสราเอล 11,978 คน

ส่วนสหรัฐอเมริกาซึ่งก่อนหน้านี้มหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ เปิดเผยว่ามีผู้ป่วยทุบสถิติโลกที่ 1,080,211 คน เมื่อวันที่ 1 ม.ค.นั้น พบผู้ป่วยใหม่เมื่อวันที่ 5 ม.ค. อีก 704,661 คน ส่งผลให้ยอดสะสมเพิ่มเป็นกว่า 58.8 ล้านคน เสียชีวิต 853,612 ราย ขณะที่ทั่วโลกมีผู้ป่วยสะสมเฉียด 300 ล้านคน และเสียชีวิตเกือบ 5.5 ล้านราย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน