หนูๆ พบลุงตู่ คำเด็ก‘วันเด็ก’ – แม้วันเด็กแห่งชาติในปี 2565 นี้ ทำเนียบรัฐบาลไม่ได้เปิดให้เด็กและเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมเหมือนเช่นทุกปีเนื่องจากต้องดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่นายกรัฐมนตรีฝากของขวัญมอบให้เด็กและเยาวชนในภูมิภาคทั่วประเทศผ่านคาราวานปันสุข

ทั้งนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ร่วมกิจกรรมการจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2565 ในรูปแบบออนไลน์ซึ่งบันทึกเทปล่วงหน้า ภายใต้มาตรการป้องกันโควิดอย่างเคร่งครัด กิจกรรมแรก นายกรัฐมนตรีพาตัวแทนเด็กและเยาวชน 5 คน นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีที่ห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กและเยาวชน

จากนั้น นายกฯ ลุงตู่ ร่วมนั่งพูดคุยกับหนูๆ และเยาวชนถึงความสนใจในด้านต่างๆ และความใฝ่ฝันถึงอาชีพในอนาคต โดย ด.ญ.เพชร เพชรทอง ฝันอยากเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียง ด.ญ.มลธนัช เผื่อนประเสริฐสุข ชื่นชอบกีฬายิงปืน ด.ญ.ภูวริศา อมาตยกุล อยากเป็น นักธุรกิจ นายปุณณานนท์ ตรีวรรณกุล อยากนำผ้าไทยและวัฒนธรรมไทยไปเผยแพร่สู่สากล นายกรัฐมนตรี ยังชื่นชมความสามารถในการคิดเลขของ ด.ช.ปองคุณ บุญเกตุ พร้อมอวยพรขอให้เรียนวิชาที่ชอบอย่างสนุก และขอให้ทุกคนมีความฝัน ตั้งใจในสิ่งที่อยากทำ ตั้งเป้าอนาคตของตนเอง ค้นหาสิ่งที่ตนเองชอบเพราะอาจมีหลากหลายด้าน และขอให้กตัญญูรู้คุณต่อบิดามารดา เพื่อเป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนประเทศไทย

ต่อมาที่ตึกภักดีบดินทร์ นายกรัฐมนตรีพูดคุยกับตัวแทนเด็กและเยาวชนดีเด่นซึ่งนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ พร้อมรับฟังข้อเสนอของเด็กๆ เกี่ยวกับการศึกษาและการเรียนการสอน

น.ส.ณัฐนรี ศรีอภิรัฐ จากวิทยาลัยพณิชยการเชตุพน กล่าวถึงการต้องการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่ยังมีบางคณะ บางสาขา และหลายมหาวิทยาลัยของรัฐ กำหนดคุณสมบัติไม่รับวุฒิ ปวช. จึงอยากให้เปิดโอกาสให้นักเรียนวุฒิ ปวช. ทำตามความฝัน มีสิทธิ์สมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัย โดย นายกรัฐมนตรีฝากให้ รมว.ศึกษาธิการ ดูข้อระเบียบต่างๆ

ด้าน น.ส.ลิตา ตันติประภาส นักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กล่าวถึงกรณีปัญหาด้านสุขภาพจิตของเด็กและเยาวชนจากความเครียดและการเข้าสังคม อยากให้นายกรัฐมนตรีส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพจิตในแต่ละโรงเรียน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การเรียนการสอนออนไลน์ทำให้มีการบ้านเยอะ พักผ่อนน้อย ได้ปรับกระบวนการสอบวัดผลไปบ้างแล้ว และให้เด็กเรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ โดยจะให้กระทรวงศึกษาธิการหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขเข้ามาพูดคุยกับเด็กๆ เพื่อรับฟังและแก้ไขปัญหาความเครียดและโรคซึมเศร้า

นายวัตร แสงหงส์ นักเรียนโรงเรียนตั้งพิรุฬห์ธรรม ขอให้นายกรัฐมนตรีช่วยผลักดันระบบอินเตอร์เน็ตให้ดีขึ้นเพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ต้องกลับไปเรียนออนไลน์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลวางโครงสร้างพื้นฐานเรื่องเทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ตต่างๆ รวมถึงมอบหมายให้ กสทช. ดูแลค่าใช้จ่ายตามงบประมาณ

ขณะที่ น.ส.อมินตา เพิ่มพูนวิวัฒน์ จากโรงเรียนสาธิต มศว ปทุมวัน กล่าวถึงความสนใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนของสภาพภูมิอากาศ และอยากให้การศึกษาในระบบแทรกเนื้อหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Climate Change) เข้าไปในแต่ละวิชา และเน้นการลงมือทำ พร้อมส่งเสริมการศึกษาตามอัธยาศัย และอยากให้ภาครัฐและประชาชนร่วมกันสร้างสังคมลดขยะให้เหลือศูนย์ (Zero Waste) ไปด้วยกัน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จัดทำแผนแม่บทไว้แล้วโดยกำหนดอยู่ในยุทธศาสตร์ชาติในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม

น.ส.พัทธ์ธีญา ยงค์สงวนชัย จากโรงเรียนนานาชาติไทยจีน กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่มีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อประชาชน นายกรัฐมนตรีย้ำว่ารัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องเริ่มจากตัวเราทุกคน

จากนั้น น.ส.อภิญญา เจียมศักดิ์ ตัวแทนเยาวชนจากโครงการ เด็กอวด (ทำ) ดี สรุปโครงการจิตอาสาที่เด็กและเยาวชนร่วมกันทำด้วยทำนองเพลงพื้นบ้านของไทยเพื่อให้นายกรัฐมนตรีรับฟัง

นายกฯ ลุงตู่ กล่าวว่า “สังคมจะดีขึ้นด้วยคนไทยทุกคน ทุกช่วงวัย ทุกรุ่น ไม่มีรุ่นไหนทั้งนั้น นี่คือรุ่นปัจจุบัน ลุงก็อยู่ในรุ่นปัจจุบันด้วย แต่อายุมากกว่า แต่ลุงต้องเก็บตกเก็บเรื่องที่เราพูดมาทั้งหมดเพราะลุงเป็นคนฟังคน ลุงเป็นคนชอบอ่านหนังสือ สิ่งสำคัญคืออ่านหนังสือ แสวงหาความรู้ร่วมกัน ขอให้โครงการนี้เดินหน้าต่อไปและยินดีด้วย ลุงรักพวกเราทุกคน ฝากพวกเรารักประเทศไทย วันนี้ยินดีอีกครั้งที่ได้ พบพวกเราทุกคน”

ภายหลังการพบปะพูดคุยระหว่างเด็กๆ เยาวชนกับนายกรัฐมนตรีนายกฯ ลุงตู่นำเด็กๆ และเยาวชนเยี่ยมชมห้องประชุมและห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าและสถานที่สำคัญภายในทำเนียบรัฐบาล พร้อมถ่ายรูปเซลฟี่กับเด็กๆ อย่างเป็นกันเอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน