เช็กระบบไฟฟ้าสกัดไหม้ตรุษจีนศาลาว่าการกทม. เมื่อวันที่ 25 ม.ค. นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 1 ก.พ. ชาวไทยเชื้อสายจีน จะประกอบพิธีไหว้เจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงเดินทางไปไหว้บรรพบุรุษ ตลอดจนสถานประกอบการต่างๆ จะปิดทำการ เพื่อเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ของคนไทยเชื้อสายจีน ซึ่งอาจเกิดอัคคีภัย หรือทำให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศ ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 จากการจุดธูปเทียน การเผากระดาษเงิน กระดาษทอง และการจุดประทัด

กทม. จึงขอความร่วมมือประชาชนควรลดการจุดธูปเทียนหรือเผาสิ่งใดๆ แต่หากต้องมีการจุดธูปเทียน ควรดูแลและดับไฟธูปเทียนให้สนิท ส่วนการเผากระดาษเงิน กระดาษทอง ควรเผาในภาชนะที่ไม่ติดไฟและแข็งแรง และเตรียมถังน้ำไว้ใกล้มือ เพื่อป้องกันไฟลุกลาม หากมีควันในปริมาณมาก ให้หาผ้าชุบน้ำปิดจมูกไว้ หลังจากเสร็จสิ้นการประกอบอาหาร ต้องปิดวาล์วแก๊สและ ถังแก๊สให้เรียบร้อย ควรตรวจสอบสายไฟ ปลั๊กไฟ รวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ให้ปิดสวิตช์และดึงปลั๊กไฟฟ้าออกทุกครั้ง เมื่อไม่ได้ใช้งาน และควรจัดหาอุปกรณ์ป้องกันหรือเครื่องดับเพลิงไว้ประจำบ้าน ส่วนเจ้าของอาคารสถานบริการและโรงงานที่ปิดทำการ ควรตรวจสอบระบบป้องกันอัคคีภัย เช่น ถังดับเพลิง สัญญาณเตือนภัย ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และจัด เจ้าหน้าที่ตรวจดูความเรียบร้อยตลอดเวลา

สำหรับการงดจัดงานตรุษจีน เยาวราช ประจำปี 2565 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาด ของเชื้อโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย และยังมีการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนอยู่ ทางสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ คณะกรรมการจัดงานตรุษจีนเยาวราช ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่เขตสัมพันธวงศ์ จึงเห็นควรในการงดจัดงาน แต่กทม.ยังคงประดับตกแต่งไฟบริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) ส่วนการสืบสานประเพณีของชาวไทยเชื้อสายจีน รวมถึงการไหว้เจ้า ตามสถานที่ต่างๆ กทม.ไม่ได้ห้าม สามารถดำเนินการ ได้ ภายใต้มาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของ โรคโควิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน