ก้าวไกลจับตารัฐบาลปรับแก้
วันที่ 10 ก.พ. ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินทร์สวัสดิ์ส.ส.กทม. นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการประชุมสภา 9 ก.พ. ที่พรรคก้าวไกลเสนอร่างกฎหมาย 3 ฉบับ ได้แก่ ร่างพ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ร่างพ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่รัฐบาลอ้าง ข้อบังคับ 118 ขอรับไปพิจารณาภายใน 60 วัน จึงยัง ไม่เข้าสู่วาระรับหลักการได้
นายณัฐชากล่าวว่า เรื่องนี้เห็นได้ชัดรัฐบาลจงใจจะ ยื้อเวลา หากต้องการศึกษาร่างกฎหมายจริงสามารถทำได้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ จึงไม่มีเหตุผลอื่น และการยื้อเวลา ครั้งนี้อาจมองไปได้ถึงขั้นว่าร่างกฎหมายต่างๆ ที่ถูกยื้อ มีผลผูกพันเกี่ยวกับนายทุน การยื้อออกไป 60 วัน อาจ ใช้เวลาช่วงนี้เรียกราคาจากนายทุนได้ ดังนั้น การพิจารณาครั้งที่รัฐบาลส่งกลับมาอาจมีเรื่องของผลประโยชน์ เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้าที่พรรคพยายามทลายทุนผูกขาด เพิ่มมูลค่ากับเกษตรกร พื้นบ้าน ทำให้ช่วง 60 วันนี้ น่าจับตาว่ารัฐบาลกำลัง จะทำอะไร
ด้านนพ.วาโยกล่าวว่า กฎหมายที่ฝ่ายค้านเสนออยู่ ในวาระนานเป็นชาติแล้ว บางฉบับเข้ามาตั้งแต่ปี 2563 ไม่ใช่เพิ่งมาเสนอเพียง 1-2 อาทิตย์ จนทำให้รัฐบาลไม่มีเวลาเพียงพอในการศึกษา ทำแบบนี้เป็นเรื่องที่น่าเกลียด
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ผู้เสนอร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม กล่าวว่า น่าเสียดายที่สภา ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติไม่สามารถลงมติต่อกฎหมายที่สำคัญต่อประชาชน ที่ ส.ส.เป็นผู้เสนอได้สำเร็จโดยง่าย ทั้งที่ยื่นตั้งแต่ 18 มิ.ย. 2563 รวม 450 วันแล้ว กฎหมายทุกฉบับที่มีผลต่อชีวิตประชาชนล้วนเป็นเรื่องเร่งด่วนทั้งสิ้น จึงหวังว่า 60 วัน ที่เป็นกรอบเวลาศึกษาของ ครม.จะถูกนำไปศึกษาจริงๆ อย่างปราศจากอคติ ด้วยมุมมองที่ก้าวหน้า
