เหรียญหันข้างหลวงปู่ผองเพื่อพัฒนาวัดป่าแสงธรรม “หลวงปู่ผอง อุชุจาโร” วัดป่าแสงธรรม อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร ได้ชื่อว่าเป็นพระเกจิที่มีวัตรปฏิบัติสมถะเรียบง่าย เสมอต้นเสมอปลาย มีไสยเวทที่เข้มขลัง จึงได้รับความเคารพเลื่อมใสศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนทั้งในและนอกพื้นที่มากพอสมควร

ปัจจุบัน สิริอายุ 89 ปี พรรษา 41

เกิดเมื่อวันที่ 2 ก.ค.2476 ที่ ต.บงใต้ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เมื่อย่างเข้าวัยหนุ่ม ท่านไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนคนหนุ่มทั่วไป เนื่องจากจิตใจท่านโน้มเอียงเข้าหาพระธรรม เดินทางไปนุ่งขาวห่มขาวปฏิบัติธรรมอุปัฏฐากรับใช้หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล จ.อุดรธานี (ขณะนั้น หนองบัวลำภูยังเป็นอำเภอหนึ่งของ จ.อุดรฯ) นานหลายปี

สำหรับหลวงปู่ขาว เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคอีสานเมื่อห้าสิบกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งหลวงปู่ขาวเมตตาอบรมสั่งสอนการปฏิบัติธรรมตามแนวทางสายพระป่าให้กับนายผอง จนมีความเชี่ยวชาญกัมมัฏฐาน

จนถึงปี พ.ศ.2524 เนื่องจากท่านมีความเลื่อมใสและจิตศรัทธาอันแรงกล้าในพระพุทธศาสนา จึงตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ อุปสมบทที่อุโบสถวัดพิศาลรัญญาวาส ต.หนองบัว อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี โดยมีพระครูศรีธรรมคุณาราช เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูวิเศษฎ์ธรรมาภรณ์ เป็นพระกรรม วาจาจารย์ และพระทวีศักดิ์ สิริธัมโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา “อุชุจาโร” แปลว่าผู้ประพฤติเที่ยงตรง

หลังอุปสมบท เดินทางมาจำพรรษา ปฏิบัติธรรมภาวนาอยู่กับหลวงปู่ขาว ที่วัดถ้ำกลองเพลรวม 1 พรรษา เมื่อออกพรรษาแล้ว ท่านกราบลาหลวงปู่ขาว ผู้เป็นพระอาจารย์ ออกวิเวกตามป่าเขาหลายแห่งในภาคอีสาน โดยเฉพาะเทือกเขาภูพาน

เมื่อครั้งที่ท่านเดินธุดงควัตรไปกับหลวงปู่จันทา ถาวโร พระป่าสายปฏิบัติชื่อดังของภาคอีสาน ไป อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี ได้ปักกลดภาวนากันที่ป่าช้าแห่งหนึ่ง และพบกับหลวงปู่ลี ถาวโร พระกัมมัฏฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่ผอง จึงเกิดความศรัทธา กราบขอคำชี้แนะการปฏิบัติธรรมจากหลวงปู่ลี ซึ่งหลวงปู่ลีก็ให้ความเมตตาอบรมสั่งสอนการปฏิบัติธรรมแนวทางที่ถูกต้อง หลวงปู่ลีจึงเป็นครูบาอาจารย์อีกรูปหนึ่งของท่าน

นอกจากนี้ ท่านยังมีโอกาสฝึกฝนกัมมัฏฐานกับพระเกจิสายหลวงปู่มั่นหลายรูป รวมทั้งเคยฝึกเรียนธาตุทั้ง 4 กับหลวงปู่ผ่าน พระอริยสงฆ์แห่งจังหวัดสกลนคร

ย่างเข้าช่วงปัจฉิมวัย จึงเดินทางกลับมา จ.สกลนคร บ้านเกิด ชาวบ้านดงยาง อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร จึง กราบนิมนต์ให้มาจำพรรษาปฏิบัติธรรมอยู่ที่ป่ารกร้างใกล้หมู่บ้าน ปัจจุบันคือวัดป่าแสงธรรม

จากนั้นร่วมแรงร่วมใจกับชาวบ้านพัฒนาสถานที่แห่งนี้ จนได้รับการอนุญาตยกฐานะจากที่พักสงฆ์ขึ้นเป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย

ในปี พ.ศ.2565 เนื่องจากอยู่ในช่วงปัจฉิมวัย จึงมักมีอาการอาพาธบ่อยครั้ง คณะศิษยานุศิษย์ที่มีจิตอันเป็นกุศลนำโดย “แท็กสกล พระใหม่” จึงมีโครงการจัดตั้งกองทุนสุขภาพ เพื่อบำรุงธาตุขันธ์ รวมทั้งเพื่อพัฒนาวัดป่าแสงธรรม แต่ยังขาดปัจจัยอยู่จำนวนมาก จึงได้ขออนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคลเหรียญหันข้าง เพื่อมอบให้ผู้ที่ร่วมบริจาคปัจจัยสมทบทุนทำบุญกับทางวัด

วัตถุมงคลลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ห่วงตัน ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนครึ่งองค์เอียงหน้าห่มจีวรเฉียง ด้านล่างสุดมีตัวอักษร เขียนคำว่า “หลวงปู่ผอง อุชุจาโร”

ส่วนด้านหลังบริเวณกลางเหรียญเป็นภาพอัฐบริขารพระสายป่า ที่บริเวณขอบเหรียญเป็นอักขระยันต์รวม 7 พระคาถา พุทธคุณจึงเด่นรอบด้าน

จำนวนการสร้างน้อยมาก อาทิ เนื้อทองคำลงยาแดง สร้าง 5 เหรียญ เนื้อเงินลงยาแดง 39 เหรียญ เนื้อสามเค สร้าง 199 เหรียญ เนื้ออัลปาก้า ลงยาน้ำเงิน 199 เหรียญ เนื้อชนวน 299 เหรียญ ทองแดง 999 เหรียญ ทองแดงรมดำ 599 เหรียญ

ประกอบพิธีพุทธาภิเษกจัดขึ้นภายในศาลาการเปรียญวัดป่า ป่าแสงธรรม โดยหลวงปู่ผองนั่งปรกอธิษฐานจิตเดี่ยวทุกวัน ตั้งแต่ช่วงเย็นทุกวันนานเกือบสองเดือน ด้วยพลังจิตที่แก่กล้าวัตถุประสงค์การสร้างดี จึงมั่นใจได้ในความเข้มขลัง

ผู้มีจิตศรัทธาประสงค์ร่วมทำบุญติดต่อ โทร.06-1492-9499

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน