เริ่มดำเนินการไปแล้วอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา การเปิดให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยโรค โควิด-19 “เจอ แจก จบ” วันแรกพร้อมกันทั่วประเทศ
โดยที่กรุงเทพฯ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ตรวจเยี่ยมคลินิกโรคทางเดินหายใจ (ARI Clinic) ที่ร.พ.ราชวิถี ในการตรวจรักษาผู้ติดเชื้อโควิดแบบ ผู้ป่วยนอก (โอพีดี) แบบสมัครใจ

นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า ร.พ.สังกัดสธ.มีคลินิกโรคทางเดินหายใจทุกแห่ง ผู้ที่มีความเสี่ยงหรือผู้ที่ติดเชื้อแล้วจะมารับบริการ ขอให้ยึดหลักป้องกันตนเองตลอดเวลา (Universal Prevention) ใส่หน้ากากตลอดเวลา โดยอาจใส่ 2 ชั้นหากรู้สึกว่าไม่สบายเพื่อป้องกันมากขึ้น รักษาระยะห่างจากคนอื่น ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ อย่าเปิดหน้ากากในที่แออัด

เมื่อผู้เข้ารับบริการเข้าตรวจที่คลินิกโรคทางเดินหายใจของร.พ. หากผลการตรวจแอนติเจน เทสต์ คิต (เอทีเค) เป็นบวก จะให้การรักษาด้วยยา 3 สูตร คือ 1.ยารักษาไวรัสโดยตรง คือ ฟาวิพิราเวียร์ 2.ฟ้าทะลายโจร และ 3.ยารักษาตามอาการ เช่น วิตามินซี ยาลดไข้ ลดน้ำมูก แก้ไอ ตามอาการที่มี เรียกว่า “เจอ แจก จบ” โดยการให้ยาขึ้นกับดุลพินิจแพทย์

ด้าน นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมการแพทย์กล่าวว่า แนวทางการรักษาผู้ติดเชื้อเข้าข่ายที่มีผลตรวจเอทีเคเป็นบวก แบ่งตามกลุ่มอาการเป็น 4 กรณี คือ
1.ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรือสบายดี หรืออาการน้อยมากๆ เช่น คันคอนิดหน่อย ไอนิดหน่อย ให้รักษาแบบผู้ป่วยนอกโดยแยกกักตัวที่บ้าน (โฮม ไอโซเลชั่น) ให้ดูแลรักษาตามดุลพินิจแพทย์ โดยไม่ให้ยาต้านไวรัสยาฟาวิพิราเวียร์
2.อาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง/โรคร่วมสำคัญ และภาพถ่ายรังสีปอดปกติ คือ ไม่เหนื่อยหอบ ไม่ซึม เพลีย ให้แพทย์พิจารณาว่าจะให้ยาฟาวิพิราเวียร์หรือไม่
3.อาการไม่รุนแรง แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรงหรือมีปอดอักเสบ เช่น ไข้สูง 38-39 องศาเซลเซียส อายุ 65 ปีขึ้นไป มีเบาหวาน หัวใจ แพทย์จะพิจารณาแอดมิตในร.พ. จะไม่รักษาแบบโอพีดีเคสเพราะมีความเสี่ยงที่จะพัฒนาโรครุนแรงมากขึ้น โดยจะมียาหลายตัวที่จะนำมาใช้ดูแล
และ 4.ผู้ป่วยที่มีโรครุนแรงมาก แพทย์จะพิจารณาให้การดูแลที่เหมาะสมในร.พ.
“เจอ แจก จบ” ปรับตัวก่อนให้โควิดเป็น “โรคประจำถิ่น” ในอนาคต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน