ในแวดวงไม้ดอกไม้ประดับ เป็นที่รู้กันดีว่า ‘อ.ภูเรือ และ อ.ด่านซ้าย’ จ.เลย เป็นแหล่งปลูกไม้ดอกไม้ประดับแหล่งใหญ่อีกแห่งของบ้านเรา สร้างรายได้ก้อนโตให้กับเกษตรกร แต่ไม่กี่ปีมานี้เกษตรกรที่ปลูกต้นคริสต์มาสประสบปัญหาหลายอย่าง ด้วยเหตุนี้เองคณะผู้วิจัยของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) จึงนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาช่วยเกษตรกรภายใต้โครงการมาลัยวิทยสถาน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)

อย่างที่ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการ วช. ให้ข้อมูลว่า โครงการนี้ขับเคลื่อนผ่าน 4 กิจกรรมย่อยคือ 1.การพัฒนาชุดข้อมูลพื้นฐาน ไม้ดอกไม้ประดับอัตลักษณ์ประจำถิ่นเพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์ 2.การพัฒนาปัจจัยการผลิตในการทำเกษตรปลอดภัยสำหรับไม้ดอกไม้ประดับ 3.การยกระดับระบบการปลูกเลี้ยงไม้ดอกไม้ประดับที่ดีด้วยเกษตรแม่นยำ และ 4.การพัฒนาเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวและบรรจุภัณฑ์ไม้ตัดดอกและไม้ประดับกระถางส่งตรงผู้บริโภคได้ต่อไป ซึ่งแนวทางมาลัยวิทยสถานเน้นการพัฒนาองค์ความรู้ที่ยั่งยืน สู่การพัฒนาตลอดห่วงโซ่การผลิต อาทิ การพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์ การคัดเลือก ต้นพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับที่แข็งแรงปลอดโรค

การส่งเสริมการใช้วัสดุปลูกที่มีคุณภาพและมีสารอาหารที่ เหมาะสมต่อพืช ระบบการปลูกเลี้ยงสมัยใหม่ที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน ระบบการปลูกเลี้ยงตามหลักความพอดีไม่เหลือทิ้ง กระบวนการหลังการเก็บเกี่ยว การสร้างกลุ่มเครือข่ายผู้ปลูกเลี้ยงให้เข้มแข็ง รวมถึงการเพิ่มมูลค่าเพื่อเป็นผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม ตลอด จนสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวในจังหวัด โดยมีพื้นที่นำร่องในจ.เลย และ จ.ลำปาง เพื่อเป็นพื้นที่ต้นแบบ สู่การเรียนรู้เชื่อมโยงไปยังพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ต่อไป

งานนี้คณะผู้วิจัยนำโดย ดร.อนันต์ พิริยะภัทรกิจ หัวหน้าโครงการ พาไปชมไร่ที่อยู่ในโครงการคือ ‘ไร่ภูซำเตย’ ของ น.ส.ณัฐริกา ศรีสวัสดิ์ หรือ คุณปู ซึ่งเธอรับหน้าที่เป็นหัวหน้าศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนท้าย บ้านแก่งไฮ อ.ภูเรือ และเป็นประธานวิสาหกิจชุมชน แปลงใหญ่ไม้ดอกไม้ประดับ หมู่ที่ 3 ต.หนองบัว ที่มีเนื้อที่ปลูกรวมกันประมาณเกือบ 100 ไร่ ซึ่งไร่ของเธอปลูกไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด ไม่ว่าจะ เป็นดาวเรือง ผีเสื้อ สร้อยไก่ คริสต์มาส หน้าวัว แคคตัสและกุหลาบ ฯลฯ








Advertisement

ดร.อนันต์บอกว่า ไม้ดอก ไม้ประดับต้องพัฒนาต่อไป เพราะเป็นเหมือนพันธุ์ไม้แฟชั่น ต้องปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ตอนนี้ต่างประเทศได้พัฒนาต้นคริสต์มาสให้มีสีสันหลากหลายมากขึ้น ซึ่งคณะวิจัยได้แก้ปัญหาเรื่องของการขยายพันธุ์ปักชำได้แล้ว โดยทำวัสดุปลอดเชื้อ จะได้ไม่เป็นโรครากเน่า และใช้วิธีการเพาะเนื้อเยื่อ หลังจากนี้ต้องพัฒนาเรื่องของ สายพันธุ์ เนื่องจากเกษตรกรปักชำสายพันธุ์แดงไทยโบราณมานานหลายปี ทำให้กิ่งชำอ่อนแอ

ทีนี้มาฟังเสียงเกษตรกรกันบ้าง คุณปูวัย 42 ปีเล่าว่า เรียนจบ ปวช.ด้านบัญชีจากวิทยาลัยพลศึกษาเพชรบูรณ์ ก่อนจะมาเป็นเกษตรกรเต็มตัวเคยทำกิจการร้านค้ามาก่อน พอปี 2543 รับซื้อต้นไม้ไปขายส่งให้กับรีสอร์ตต่างๆ ต่อมาปี 2547 เลยปลูกขายเอง ในพื้นที่ 16 ไร่ แบ่งทำ ไม้ดอก 8 ไร่ ที่เหลือปลูกพืชไร่อย่างข้าวโพดและขิง

เธอแจกแจงว่า ในส่วนวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ ไม้ดอกไม้ประดับ หมู่ที่ 3 ต.หนองบัว อ.ภูเรือ ปัญหาของกลุ่มคือ ต้นคริสต์มาสไม้หลักของ อ.ภูเรือ ที่ผลิตอยู่เกิดโรค ดินไม่ดีพอ ทีมงาน ดร.อนันต์จึงลงมาวิจัยเกี่ยวกับดิน และพบว่าต้นพันธุ์อาจมีโรคแทรกอยู่ในกิ่งก้าน จึงช่วยเหลือด้วยการเพาะต้นพันธุ์คริสต์มาสด้วยเนื้อเยื่อ ในกลุ่มไม่มีความรู้มาก โชคดีที่ทาง วว.และวช.เข้ามาช่วย เนื่องจากเป็นต้นพันธุ์ที่ปลูกกันหลายสิบปี โดยการชำ

ย้อนกลับไปเมื่อตอนปลูกต้นคริสต์มาสใหม่ๆ ไม่มีปัญหาอะไร พอสัก 8 ปีก่อน เจอโรครากเน่าโคนเน่าช่วงที่ฝนตกเยอะในเดือนกันยายน ซึ่งต้นคริสต์มาสใช้เวลาปลูกนาน 9 เดือน ในเดือนกุมภาพันธ์-ตุลาคม ที่ผ่านมาปลูก 100% แต่ได้มาแค่ 70% ที่จริงอยากได้สัก 80% ให้ตายแค่ 20% พอ แต่พอระยะหลังเหลือแค่ 50% เท่านั้น นอกจากนี้ยังเจอปัญหาเรื่องของแมลงหวี่ขาวที่ยังกำจัดไม่ได้ เดิมนั้นเกษตรกรปลูกแบบเคมี ต่อมาได้ไปฝึกอบรมจากหน่วยงานภาครัฐก็หันมาใช้ไตรโคเดอร์มาบ้าง แต่ในฤดูฝนยังต้องใช้เคมีบ้าง ส่วนปุ๋ยก็ยังต้องใช้เคมีอยู่

คุณปูเล่าอีกว่า “แรกๆ แมลงหวี่ขาว มาช่วงหน้าฝน แต่ตอนนี้มาทุกช่วง มาเกาะ มากัดอยู่ใต้ใบ ไข่ไว้ใต้ใบเต็มเลย ทำให้ ไม่สวย ถ้าเกษตรกรไม่อยากให้มีต้องใช้สารฆ่าแมลงเยอะจนทำให้ต้นคริสต์มาสแพ้ใบหลุดร่วงไม่สวย
สำหรับต้นคริสต์มาสเล็กเพาะชำ ขาย ต้นละ 20 บาทขึ้นไป ถ้าต้นใหญ่ๆ ราคา 50-70 บาท

เธอว่า จุดเด่นของไร่ภูซำเตยคือ เป็นจุดที่เปิดให้ผู้คนและคณะต่างๆ เข้ามาศึกษาดูงาน และเปิดโอกาสให้เด็กๆ ในหมู่บ้านมาไลฟ์สดขายต้นไม้ ทำให้เด็กๆ มีรายได้เสริม เกิด ความสนุกสนานและภาคภูมิใจ ซึ่งเด็กๆ แค่ถ่ายรูปไปลงโซเชี่ยลมีเดียแค่นั้น ปัจจุบันที่ไร่ และสมาชิกของกลุ่มปลูกไม้ดอกไม้ประดับและพืชไร่อื่นๆ ส่งให้กับโรงแรม รีสอร์ต สวน และร้านขายต้นไม้ทุกจังหวัด โดยขายทางออนไลน์ด้วย ตอนนี้ที่ขายดีเป็นพวกพรรณไม้ตระกูลคล้า อย่าง นกยูงแดง นกยูงเขียว เสน่ห์ขุนแผน ขายดีมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
นับเป็นสวนที่มีพันธุ์ไม้หลากหลายจริงๆ สนใจไร่ภูซำเตย ติดต่อได้ที่คุณปู โทร. 08-9570-4508

ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน