มีผลงานแสดงมาให้แฟนๆ ชมอย่าง ต่อเนื่อง สำหรับพระเอกหนุ่ม ‘อินดี้’ อินทัช เหลียวรักวงศ์ ที่ล่าสุดมีละคร “กระสือลำซิ่ง” ทางช่อง 8 จับคู่กับนางเอกรุ่นพี่ ‘เชียร์’ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์
โดยหนุ่มอินดี้ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงบทบาทที่ได้รับในเรื่อง พร้อมกับอัพเดตเรื่องหัวใจที่รีเทิร์นรักกับแฟนสาว ‘ฟ้าใส’

เล่นเป็นพระเอกละครกระสือลำซิ่ง?
อินดี้ – “รับบท ‘แคน’ เป็นลูกชายเจ้าของค่ายเพลงที่จะมาบริหารงานแทนพ่อ และอยู่ค่ายเพลงกับ นินะ (เชียร์ ฑิฆัมพร) และ พาฝัน (น้ำหวาน กรรณาภรณ์) การเล่นเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะใกล้ตัว เป็นผู้ชายแนวทะเล้น กวนๆ หน่อย แต่ในพาร์ตการทำงานก็ค่อนข้างซีเรียส เพราะมีปมกับพ่อในอดีต ทำให้ฝังใจ อคติในการทำงานของพ่อ”

ท้าทายกว่าละครที่ผ่านมาอย่างไร?
อินดี้ – “ท้าทายตรงที่เรื่องนี้มีหลายแนวหลายรสชาติ มีทั้งผี ดราม่า ตลก เข้มข้น ทั้ง 4 อย่างรวมมาเป็นหนึ่ง ความยากง่ายบางซีนก็จะมีความดราม่าในตัวและมีความคอมเมดี้ในตัว ซึ่งความยากคือเราปรับอารมณ์ไม่ทัน อยู่ๆ เราจะมาเสียใจ และสักพักหนึ่งเราต้องมาหัวเราะกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นความยากอยู่พอสมควรกับตัวเราครับ พาร์ตของเราเป็นคอมเมดี้ แต่ไม่ได้เป็นคอมเมดี้ที่จงใจ คือเราโดนบรีฟมาให้เล่นในฉบับที่เราเป็นเรา เล่นตลกยังไงให้ดูไม่ตลก หมายถึงว่าเราไม่ได้ตลก แต่เราทำให้คนดูตลกกับสิ่งที่เราทำครับ”

เป็นมายังไงได้มาเล่นละครให้กับเชียร์?
อินดี้ – “ตอนแรกพี่เชียร์เคยพูดกับเราว่าจะทำละคร ตอนแรกเขา ไม่ได้บอกว่าจะเล่นเอง เขาบอกเป็นผู้จัด แล้วก็จะมีนักแสดงคนอื่นๆ มาเล่นเป็นนินะ เราก็เลยตอบโอเค ยินดีเลย เพราะตัวดี้ และพี่เชียร์สนิทกันมานานแล้ว เขาเป็นเหมือนพี่สาวที่น่ารัก เจอกันมานานมาก แฮปปี้ในการทำงานกับเขาอยู่แล้ว ซึ่งตอนแรกก็ไม่คิดว่าเขาจะเล่น สุดท้ายแล้วเขาบอกว่าเขาเล่นด้วย เล่นเป็นนินะ เราก็ยิ่งแฮปปี้ที่ได้เล่นกับเขา เพราะเราสนิทกัน เรื่องความกดดัน ความเกร็งไม่มีเลย”

พาร์ตการทำงานในฐานะผู้จัด สำหรับสายตาเรามองอย่างไรบ้าง?
อินดี้ – “ในเรื่องการทำงาน พี่เชียร์มืออาชีพอยู่แล้ว ไม่กังวลเลย แต่เราเห็นในมุมการแสดงมากกว่าการเป็นผู้จัด พี่เชียร์รับบทนินะ เป็นนางเอกและตัวนำของเรื่อง จะมีทั้งบทนักร้อง บทกระสือ บทคนในค่ายเพลง ตรงนี้เขาจะไม่มีโมเมนต์เป็นผู้จัดให้เราเห็น เขาทำการบ้านหนักมากๆ เราอยู่กับเขาทุกๆ ซีน ไม่ค่อยได้เห็นช่วงจัดแจงงานหลังซีนเลย เพราะเขาเหมือนจะโฟกัสกับการแสดงพอสมควร ตรงนี้เราก็แฮปปี้ในการที่ว่าเราไม่ได้คิดมากว่าถ้าเขามาในพาร์ตผู้จัด เราจะต้องกดดันไหม”








Advertisement

เคมีลงตัว?
อินดี้ – “คือเรื่องนี้ดีตรงเป็นละครน่ารัก กัดๆ กัน ไม่ได้เป็นพาร์ตดราม่าให้คิดมาก ฉะนั้นตรงนี้เราคลายความกดดันไปเยอะ สบายใจที่เล่นบทกับพี่เชียร์ เพราะมีแต่มุมบวก”

กระสือแต่งหน้า ใช้เอฟเฟ็กต์หนัก?
อินดี้ – “กระสือใช้เอฟเฟ็กต์ใช้ทุกอย่าง มีซีจี และใช้เลือดประกอบ มีฟันปลอม คอนแท็กต์เลนส์ ใช้น้ำตาหยอดตา สีแดงมาหยอดเพื่อให้ตาขาวเป็นสีแดง แล้วเวลาลืมตาจะเหมือนเป็นเส้นเลือดในตา ตรงนี้ต้องชมพี่เชียร์เลย ทั้งใส่เขี้ยว หยอดตา เติมเลือดให้ดูสมจริงเวลากระชากหัวออกมา ชื่นชมในความที่เขาพยายามให้มันเหมือนกระสือจริงๆ”

เรื่องนี้มีจับไมค์ ร้องเพลงกันจัดเต็ม?
อินดี้ – “การจับไมค์ร้องเพลงหรือเต้น ตัวดี้ไม่ได้อยู่ในพาร์ตนั้น แต่หากพูดในมุมของคนดูต้องบอกว่าเต็มที่มาก เราเกณฑ์คนมาดูเวทีแบบเยอะจริงๆ คอนเสิร์ตก็รันยาว คือให้พี่เชียร์ไปเต้นและร้องยาว เห็นพี่เชียร์ร้องเพลงแบบไม่ลิปซิ้ง ได้เห็นทุกฉากทุกซีน พี่เชียร์ร้องจริงและร้องเพลงเก่ง ไม่ต้องไปฝึกหรือไปเทรน เขาร้องเพลงเพราะอยู่แล้ว แค่ไปปรับและเวิร์กช็อปนิดหน่อยและขึ้นเวทีได้เลย มันเลยง่ายต่อการทำงาน และเราเชื่อว่าเขาเป็นนักร้องจริงๆ”

ความยากที่เป็นอุปสรรคเรื่องนี้?
อินดี้ – “เป็นการถ่ายทำตอนที่เรากำลังเห็นกระสือ ตอนถ่ายเราจะไม่เห็นพี่เชียร์ เราต้องเล่นกับจินตนาการ ซึ่งเป็นอะไรที่ยากที่สุดสำหรับผม ต้องจินตนาการว่าเขากำลังถอดหัวและพุ่งมาหาเรา ยากมาก แต่ความง่ายคือตัวบทของแคนไม่ค่อยต่างกับดี้เท่าไหร่ และเราก็เข้ากับนักแสดงที่มีประสบการณ์เยอะเลยไม่กังวล”

ละครผีเรื่องแรกในชีวิต?
อินดี้ – “อันนี้คือละครผีในชีวิตเรื่องแรกของดี้ ไม่เคยเล่นละครแบบนี้มาก่อน และไม่เคยเล่นละครผีที่มีความตลกอยู่ด้วยกัน ตรงนี้ดี้ว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างหายาก ซึ่งต้องบอกว่าผีเป็นผีที่น่ากลัวจริงๆ ไม่ใช่ผีน่ารัก กระสือน่ากลัวมาก และไม่เหมือนกระสือที่อื่น”

หัวใจตอนนี้ยังชุ่มฉ่ำเหมือนเดิมอยู่ไหม?
อินดี้ – “เหมือนเดิมครับ โอเคครับ ยังมีความรักอยู่ที่แฮปปี้กับคนเก่าครับ”

ช่วงที่รีเทิร์นรักกับ ‘ฟ้าใส’ มีปัญหากันไหม?
อินดี้ – “ไม่มีแล้วนะ คือเรื่องการปรับจูนหรือเรื่องนิสัยส่วนตัว เป็นอะไรที่มันเดินทางมาถึงจุดที่ปรับจูนเข้ากันแล้ว ด้วยเราคบกับเขามา 2 ปี อาจมีทะเลาะกันบ้าง แยกกันบ้าง แต่ทุกครั้งที่แยกกัน มันเป็นอะไรที่เรียนรู้กับตัวเอง และตัวน้องเขาก็เรียนรู้ด้วย เหมือนเราโตขึ้นมาเรื่อยๆ ก็เฝ้าดูความเจริญเติบโตของเขาในขั้นหนึ่งที่ว่าเขาจะเข้ากับเราได้มากแค่ไหน ตอนนี้ก็ปรับจูนกันได้ประมาณหนึ่งครับ”

ยังหวานกันเหมือนเดิม?
อินดี้ – “ก็หวานนะ แต่ด้วยเราทำงาน และเขาก็เพิ่งเริ่มทำงาน ก็อาจจะเจอกันน้อยลง แต่ก็ยังหาเวลาเจอกัน ยังไปเที่ยวกันปกติ เขาไม่เคยมีปัญหาเรื่องเวลาและการทำงานเลย พูดตรงๆ ไม่ว่าเราจะไปเลิฟซีนกับใคร ไปเล่นบทแซ่บกับใคร ไม่เคยมีปัญหา เราก็แฮปปี้ในการที่ไม่ต้องปรับจูนอะไรกับเขาเลย คือโมเมนต์แรกที่เราคุยกับเขา เพราะเขาก็เข้าใจเราในมุมงานแล้ว แต่มันอาจจะเป็นเรื่องนิสัยส่วนตัวของเรากับเขาที่เข้ามาแล้วไม่คลิกกันในตอนแรก”

เคยเอาเรื่องเก่าๆ ในชีวิตมาพูดให้ทะเลาะกันไหม?
อินดี้ – “ก็มีบ้าง แต่ก็พยายามวางมันลงในเรื่องที่เราจัดการไปแล้ว หรือตกลงเคลียร์ใจกันแล้ว เราเคลียร์จบไปแล้ว ก็ไม่รู้จะทะเลาะกันเรื่องเดิมไปทำไม อยู่กับปัจจุบันที่เราแฮปปี้ดีกว่า ส่วนเรื่องความเชื่อใจ ดี้เชื่อใจเขาอยู่แล้วร้อยเปอร์เซ็นต์ ความสบายใจอีกอย่างหนึ่งคือเวลาเขาไปไหนแล้วเขาบอก เขาไม่ได้สร้างกำแพงเพื่อปกปิดอะไรเรา คือเขาสร้างความสบายใจให้เราตั้งแต่แรก จุดนี้เราก็แฮปปี้ในเรื่องการใช้ชีวิต”

2 ปีกว่า เข้าใจกันมากขึ้น?
อินดี้ – “เข้าใจกันมากขึ้นเยอะ พูดตรงๆ ว่าก่อนหน้านี้ไม่เข้าใจกันเลย ที่จุดประเด็นที่ทำให้ทะเลาะกันบ่อยมาก ความเข้าใจเป็นศูนย์เลย แต่ตอนนี้ด้วยไลฟ์สไตล์ของเขาและไลฟ์สไตล์ของผมไม่เหมือนกันเลย แต่สิ่งที่เรารู้สึกว่าเราปลื้มในตัวเขาคือเขาพยายามปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์เรา และตัวดี้ก็ปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์เขา”

“คือดี้เป็นคนแฮงเอาต์กับเพื่อนน้อยมาก ไม่ใช่ไม่เอาสังคม คือดี้บางทีตื่น 7 โมง เลิกงาน 3 ทุ่ม เราเหนื่อย อยากกลับไปนอนไปพักผ่อน แต่เขาเป็นคนติดเพื่อน มีเพื่อนเยอะ มีสังคมเยอะ เขาก็จะออกไปเจอเพื่อนไปแฮงเอาต์ คือด้วยความต่างตรงนี้ เขาก็พยายามปรับจูนให้น้อยลง บวกกับตอนนี้เขาเริ่มที่จะทำงาน เจอเพื่อนเขาน้อยลงเยอะ ปัญหาเรื่องความคิดมากก็จะน้อยลงครับ”

ที่บ้านไฟเขียวหรือเปล่าแฟนคนนี้?
อินดี้ – “ที่บ้านไม่ค่อยยุ่ง ไม่มานั่งบอกว่าห้ามคบคนนี้คนนั้น ไม่มานั่งฟิกซ์ แต่เขาก็เป็นห่วงฝั่งผู้หญิงมากกว่าว่าเขาจะโอเคกับเราหรือเปล่า ด้วยเราทำงานตรงนี้ เวลาอาจจะไม่ตายตัว งานค่อนข้างหนัก เวลาพักผ่อนไม่มี ตรงนี้ด้วยรูทีนเวลาของเรา ค่อนข้างจะเป็นห่วงฝั่งเขามากกว่า”

สุชาวดี อภิสัมภินวงค์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน