ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก คืนนี้จะได้ 2 ทีมแรกที่ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือก เรอัล มาดริด กุมความได้เปรียบเหนือแชมป์เก่าเชลซี ขณะที่บาเยิร์น มิวนิก ต้องชนะบียาร์เรอัลสถานเดียว ผลจะออกมาเช่นไร ต้องรอติดตาม

วันอังคารที่ 12 เมษายน 2565
ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดที่สอง
เรอัล มาดริด-เชลซี “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด จากสเปน เปิดสนามซานติอาโก เบร์นาเบว รับการมาเยือนของ “สิงโตน้ำเงินคราม”เชลซี แชมป์เก่าจากอังกฤษ เกมแรกมาดริดบุกชนะมา 3-1
เส้นทางที่ผ่านมา มาดริด ผ่านรอบแบ่งกลุ่มด้วยการคว้าแชมป์กลุ่มดี ทำผลงานชนะ 5 แพ้ 1 เก็บได้ 15 คะแนน ส่วน เชลซี ได้รองแชมป์กลุ่มเอช ทำผลงานชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 1 เก็บไป 13 คะแนน

โดย มาดริด ชนะ อินเตอร์ มิลาน 1-0(เยือน), แพ้ เชอริฟฟ์ 1-2(เหย้า), ชนะ ชักตาร์ โดเน็ตส์ก 5-0(เยือน), ชนะ ชักตาร์ โดเน็ตส์ก 2-1(เหย้า), ชนะ เชอริฟฟ์ 3-0(เยือน), ชนะ อินเตอร์ มิลาน 2-0(เหย้า)
ส่วน เชลซี ชนะ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก 1-0(เหย้า), แพ้ ยูเวนตุส 0-1(เยือน), ชนะ มัลโม 4-0(เหย้า), ชนะ มัลโม 1-0(เยือน), ชนะ ยูเวนตุส 4-0(เหย้า), เสมอ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก 3-3(เยือน)
จากนั้นรอบ 16 ทีมสุดท้าย มาดริด ชนะ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ด้วยผลรวม 3-2 ขณะที่ เชลซี ชนะลีลล์ด้วยผลรวม 4-1

คู่นี้เคยเจอกันในถ้วยยุโรปมา 6 ครั้ง มาดริด ชนะ 1 นัด เสมอกัน 2 นัด เชลซี ชนะ 3 นัด หนล่าสุดนอกเหนือจากแมตช์สัปดาห์ก่อน ทั้งคู่พบกันในรอบรองชนะเลิศรายการนี้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เจ๊ากันบ้านมาดริด 1-1 และ เชลซี เปิดบ้านชนะ 2-0
ความพร้อมนัดนี้ มาดริด จะขาด เอเดน อาซาร์, ลูกา โยวิช (บาดเจ็บ) เอแดร์ มิลิเตา (ติดโทษแบน) และต้องเช็กความฟิต แฟร์กล็องด์ เมนดี, อิสโก ด้านเชลซีไม่มี เบน ชิลเวลล์ (บาดเจ็บ) และต้องลุ้นความฟิต คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย

คาดว่าเกมนี้มาดริดคงจัดระบบ 4-3-3 ธิโบต์ กูร์กตัวส์ : ดานี การ์บาฆัล, นาโช เฟร์นานเดซ, ดาวิด อลาบา, มาร์เซโล : ลูกา โมดริช, คาเซมิโร, โทนี โครส : โรดรีโก, คาริม เบนเซมา, วินิซิอุส จูเนียร์
ขณะที่ เชลซี น่าจะวางแผน 3-4-2-1 เอดูอาร์ เมนดี : แอนเดรียส คริสเตนเซน, ติอาโก ซิลวา, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ : รีซ เจมส์, เอ็นโกโล ก็องเต, จอร์จินโญ, มาร์กอส อลอนโซ : เมสัน เมาต์, คริสเตียน ปูลิซิช : ไค ฮาเวิร์ตซ์

มาดริด แม้จะยังวางใจไม่ได้ แต่ด้วยสถานการณ์ที่เหนือกว่าขนาดนี้จึงเล่นง่ายขึ้นเยอะ มองแล้ว เชลซี ไม่น่าพลิกนรกไหว เจ้าถิ่นอาจย้ำแค้นอีกเกมเลยด้วยซ้ำ

บาเยิร์น มิวนิก-บียาร์เรอัล “เสือใต้”บาเยิร์น มิวนิก จากเยอรมนี เปิดสนามอัลลิอันซ์ อารีนา รับ “เรือดำน้ำสีเหลือง”บียาร์เรอัล จากสเปน เกมแรก บียาร์เรอัล เปิดบ้านชนะมา 1-0
เส้นทางที่ผ่านมา บาเยิร์น ผ่านรอบแบ่งกลุ่มมาในฐานะแชมป์กลุ่มอี ทำผลงานชนะ 6 นัดรวด กวาดไป 18 คะแนนเต็ม ส่วน บียาร์เรอัล คว้ารองแชมป์กลุ่มเอฟ ทำผลงานชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 2 เก็บไป 10 คะแนน

โดย บาเยิร์น ชนะ บาร์เซโลนา 3-0(เยือน), ชนะ เคียฟ 5-0(เหย้า), ชนะ เบนฟิกา 4-0(เยือน), ชนะ เบนฟิกา 5-2(เหย้า), ชนะ เคียฟ 2-1(เยือน), ชนะ บาร์เซโลนา 3-0(เหย้า)
ด้าน บียาร์เรอัล เสมอ อตาลันตา 2-2(เหย้า), แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2(เยือน), ชนะ ยัง บอยส์ 4-1(เยือน), ชนะ ยัง บอยส์ 2-0(เหย้า), แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2(เหย้า), ชนะ อตาลันตา 3-2(เยือน)

จากนั้นรอบ 16 ทีมสุดท้าย บาเยิร์น ชนะ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ด้วยผลรวม 8-2 ขณะที่ บียาร์เรอัล ชนะ ยูเวนตุส ด้วยผลรวม 4-1
คู่นี้เคยเจอกันในถ้วยยุโรป 3 แมตช์ โดยนอกเหนือจากแมตช์สัปดาห์ก่อนนั้น ทั้งคู่พบกันในรอบแบ่งกลุ่มรายการนี้เมื่อฤดูกาล 2011-12 บียาร์เรอัล แพ้คารัง 0-2 และ บาเยิร์น เปิดบ้านชนะ 3-1

เกมนี้คาดว่า บาเยิร์น จะวางหมาก 4-2-3-1 มานูเอล นอยเออร์ : แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์, ดาโยต์ อูปาเมกาโน, ลูกัส แอร์กน็องเดซ, อัลฟอนโซ เดวิส : โยซัว คิมมิช, เลออน โกเร็ตซ์กา : คิงสเลย์ โกมัน, โธมัส มุลเลอร์, เลอรอย ซาเน : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี
ขณะที่ บียาร์เรอัล คงใช้แผน 4-3-3 เฆโรนิโม รูยี : ฆวน ฟอยธ์, ราอูล อัลบิโอล, เปา ตอร์เรส, เปร์บิส เอสตูปินญาน : ฟร็องซิส โกเกอแล็ง, เอเตียน กาปู, ดานี ปาเรโฮ : เคราร์ด โมเรโน, อาร์เนาต์ ดันจูมา, โจวานี โล เชลโซ

แมตช์แรกที่พบกันบาเยิร์นดูจะทำอะไร บียาร์เรอัลไม่ถนัดเลย แมตช์นี้คาดว่าสภาพก็อาจไม่ต่างกันนัก ทีมเยือนน่ามายันเจ๊าแล้วผ่านเข้ารอบไปได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน