กระทรวงวัฒนธรรม โดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย แถลงข่าวโครงการประกวดออกแบบเครื่องแต่งกายร่วมสมัย (Contemporary Fashion Competition 2022) ภายใต้แนวคิด “ไทยใส่สบาย” ที่หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน โดย นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม มอบหมายให้ นายโกวิท ผกามาศ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย เป็นประธานในงานแถลงข่าวพร้อมด้วยนักออกแบบแฟชั่นดีไซเนอร์ชื่อดัง ศิลปินนักแสดง ร่วมเชิญชวนนักออกแบบคนรุ่นใหม่สร้างสรรค์ไอเดียการออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทย ชิงเงินรางวัลมูลค่ากว่า 160,000 บาท พร้อมร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือกับ 6 สถาบันการศึกษาชื่อดัง เพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านศิลปะร่วมสมัย สาขาการออกแบบเครื่องแต่งกาย

นายโกวิทกล่าวว่า เพื่อตอบโจทย์ภายใต้แนวนโยบาย ของรัฐบาลที่มุ่งขับเคลื่อน “ซอฟต์เพาเวอร์” ความเป็นไทย เพื่อสร้างรายได้และ ภาพลักษณ์ที่ดีให้ประเทศ ผ้าไทยและการออกแบบแฟชั่น ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ที่สำคัญ บ่งบอกถึงอัตลักษณ์ไทย พร้อมถ่ายทอดศิลปะภูมิปัญญาของแต่ละชุมชน จึงจัดประกวดการออกแบบเครื่องแต่งกายผ้าไทยร่วมสมัย

ภายใต้แนวคิด “ไทยใส่สบาย” กำหนดโจทย์คือต้องนำผ้าไทยซึ่งก็คือผ้าที่ประดิษฐ์ขึ้นด้วยฝีมือคนไทยมาเป็นวัตถุดิบในการออกแบบ เพื่อให้คนไทยเห็นว่าผ้าไทยนำมาออกแบบได้สวยงาม ใส่ได้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน และบุคคลทั่วไปก็สวมใส่ได้อย่างสบาย นอกจากเป็นเวทีการประกวดให้นักออกแบบรุ่นใหม่แสดงความสามารถและพัฒนาฝีมือ ยังถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเรื่องผ้ามีช่องทางนำเสนอความหลากหลายของเส้นใย กรรมวิธีการผลิต สีสันและลวดลาย เกิดองค์ความรู้เรื่องผ้าและการออกแบบเครื่องแต่งกาย ผ่านการนำเสนอผลงานของนักออกแบบรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมกิจกรรมและความเห็นจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ

“กิจกรรมดังกล่าวได้รับเกียรติจากแฟชั่นดีไซเนอร์ชื่อดังระดับประเทศเป็นที่ปรึกษาและคณะกรรมการตัดสิน อาทิ คุณศิริชัย ทหรานนท์, คุณธีระ ฉันทสวัสดิ์, คุณเอก ทองประเสริฐ และคุณบัญชา ชูดวง ก่อนที่ผลงานทั้งหมดจะนำไปเผยแพร่สู่สาธารณชนต่อไป ทั้งนี้ยังได้รับความร่วมมือจากสถาบัน การศึกษา 6 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ที่จะจับมือกันส่งเสริมและเผยแพร่งานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย สาขาการออกแบบเครื่องแต่งกาย ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ เพื่อเพิ่มพูนภูมิปัญญาและต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมภายใต้กิจกรรมนี้” นายโกวิทกล่าว

ด้าน นายธีระ ฉันทสวัสดิ์ ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ T-ra กล่าวว่า เสน่ห์ของ ผ้าไทยคือการทอด้วยมือและภูมิปัญญาที่เกิดจากการเข้าใจวิถีชีวิต สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมของตัวเองแล้วถ่ายทอดออกมาเป็นงานทอผ้าในรูปแบบที่แตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น ควรส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมให้คงอยู่ต่อไปในทุกๆ ด้าน ไม่ใช่แค่เรื่องการทอผ้า และควรต่อยอดสนับสนุนให้เกิดการส่งเสริมอย่างจริงจัง จะทำให้เกิด ความยั่งยืนของศิลปวัฒนธรรมที่ร่วมสมัยไม่สูญหายไปตามกาลเวลา

ทั้งนี้ คณะกรรมการตัดสินผลงานรอบแรกจะพิจารณาคัดเลือก ผลงานที่โดดเด่นจำนวน 12 คน จากหลักเกณฑ์ ดังนี้ 1.แนวคิดการออกแบบ 2.ความคิดสร้างสรรค์และเอกลักษณ์ในการนำลายผ้ามาออกแบบ 3.เทคนิคที่ใช้ออกแบบ 4.การเลือกใช้วัสดุและโทนสี ก่อนจัดสรรงบประมาณนำไปผลิตเป็นชุดต้นแบบเพื่อเข้าแข่งขัน ในรอบชิงชนะเลิศต่อไป

ผลงานที่ชนะจะได้รับรางวัลเงินสดพร้อมโล่เกียรติยศ มูลค่ารวม ทั้งสิ้น 160,000 บาท ผู้สนใจส่งแฟ้มผลงานได้ตั้งแต่วันนี้-6 พ.ค. สอบถามโทร. 0-2209-3753 หรือติดตามรายละเอียดที่ www.ocac.go.th

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน