เมื่อวันที่ 1 พ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกา หรือคองเกรส เดินทางพบหารือกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ที่กรุงเคียฟ เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนยูเครน นับเป็นบุคคลสำคัญคนล่าสุดจากชาติตะวันตกที่เดินเข้าไปยังยูเครนท่ามกลางการสู้รบกับรัสเซียทางภาคตะวันออกของประเทศ
นางเปโลซี ประธานสภาคองเกรสจากพรรคเดโมเครติก หรือเดโมแครต ถือเป็นบุคคลตามลำดับอำนาจคนที่ 3 ของสหรัฐ เป็นรองเพียงประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และรองประธานาธิบดีหญิงกมลา แฮร์ริส เดินทางไปพบประธานาธิบดียูเครนในสถานที่ที่ไม่ได้รับการเปิดเผยด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยและเพิ่งได้รับการเปิดเผยหลังเดินทางกลับแล้ว
ลุยถึงถิ่น – นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาคองเกรสสหรัฐอเมริกาเดินทางเข้าพบประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ที่กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน ท่ามกลางการสู้รบดุเดือดกับรัสเซียทางภาคตะวันออกและภาคใต้ของประเทศ เมื่อ 1 พ.ค. (รอยเตอร์)
คลิปวิดีโอของการพบกันได้รับการเปิดเผยผ่านทวิตเตอร์เผยให้เห็นนางเปโลซีและสมาชิกสภาผู้แทนคองเกรสหลายคน ระบุว่า “พวกเราเดินทางมาเพื่อแสดงความขอบคุณต่อการยืนหยัดต่อสู้เพื่อเสรีภาพในสงครามที่กำลังเกิดขึ้น นับเป็นการต่อสู้เพื่อทุกคนในโลกเสรี และสหรัฐ มีความมุ่งมั่นที่จะอยู่เคียงข้างพวกท่านไปจนกว่าการต่อสู้ของท่านจะสิ้นสุด” นอกจากนี้ นางเปโลซียังแสดงความตั้งใจที่จะเร่งผลักดันการของบประมาณสนับสนุนยูเครนรอบใหม่ถึง 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1 ล้านล้านบาท จากประธานาธิบดีไบเดนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ส่วนกระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าวหาทางการยูเครนว่าใช้กระสุนปืนใหญ่ยิงถล่มพลเรือนของตัวเองที่เขตคีเซลีฟกาและไชโรกา บัลกา ที่แคว้นเคอร์ซัน ภายหลังกองทัพรัสเซียเข้ายึดครองเมืองเคอร์ซันในแคว้นดังกล่าวที่อยู่ทางเหนือของแคว้นไครเมียได้ตั้งแต่ช่วงเริ่มการรุกราน อย่างไรก็ตาม ทางรัสเซียไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ด้านกระทรวงกลาโหมยูเครน ระบุว่า กองทัพรัสเซียอยู่ระหว่างพยายามรุกคืบจากแคว้นเคอร์ซันและเตรียมจัดกำลังเพื่อบุกเมืองมิโคลายิฟและครีวิลิก ส่วนความคืบหน้าที่เมืองมาริอูโปลซึ่งรัสเซียประกาศชัยชนะไปเมื่อ 21 เม.ย. ทำให้ทหารยูเครนที่เหลือพร้อมพลเรือนจำนวนมากพากันไปหลบภัยและถูกปิดล้อมที่โรงงานผลิตเหล็กกล้า ล่าสุด เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กออกมาได้ 20 คน หลังทั้งสองฝ่ายหยุดยิงบริเวณดังกล่าวชั่วคราวเพื่อให้หน่วยกู้ภัยยูเครนเข้าช่วยเหลือพลเรือนจากซากปรักหักพังในโรงงาน
วันเดียวกัน นายดิมีโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน กล่าวว่าอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้และขอความคุ้มครองจากชาติสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ในจำนวนนี้รวมถึงจีนด้วย หลังทางการจีนเคยตกลงไว้ตั้งแต่ปี 2556 ว่าจะให้ความคุ้มครองยูเครนหากถูกรุกรานหรือเผชิญภัยคุกคามจากอาวุธนิวเคลียร์
“เราขอเสนอให้ทางการจีนเข้าร่วมเป็นหนึ่งในชาติที่ให้ความคุ้มครองต่อความมั่นคงของยูเครน ถือเป็นการให้เกียรติจีนในฐานะชาติที่ยูเครนเคารพและไว้เนื้อเชื่อใจ” นายคูเลบากล่าว ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนเคยระบุไว้ถึงการให้ความคุ้มครองยูเครน ว่ามีขอบเขตที่ชัดเจนและจะสามารถร้องขอได้ก็ต่อเมื่อเข้าเงื่อนไขที่มีลักษณะจำเพาะมากเท่านั้น
