ขบวนการปั่นราคาหมู
เรียน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ข่าวสด

ขณะนี้มีขบวนการปั่นราคาหมู และให้ข้อมูลข่าวสารด้านเดียวว่าราคาเนื้อหมูหน้าเขียงมีราคาสูงถึง 250 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อหวังให้เกิดกระแสสังคมและใช้หลักจิตวิทยามากดดันให้เกษตรกรผู้เลี้ยง ขายหมู มีชีวิตในราคาต่ำกว่าราคาประกาศของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ รวมทั้งอาจมีวัตถุประสงค์แอบแฝงอื่น อาทิ การหากำไรกับส่วนต่าง ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้นราคาจำหน่ายไม่ได้สูงดังที่กล่าว ยกตัวอย่างในพื้นที่ภาคเหนือที่ขาดแคลนเนื้อหมูอย่างรุนแรง ราคาจำหน่ายเนื้อหมูในร้านค้าจำหน่ายทั่วไปยังอยู่ที่กิโลกรัมละ 160 กว่าบาทเท่านั้น เกษตรกรยังคงแบกรับภาระต้นทุนที่สูงกว่า 98.81 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาขายเพิ่งจะแตะ 98-100 บาทต่อกิโลกรัม เป็นราคาที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง จากผลพวงของปัญหาโรค ASF ในหมู อุตสาหกรรมการเลี้ยงหมูของไทยยังคงมีผู้เลี้ยงที่หลากหลาย ประกอบไปด้วยเกษตรกรรายเล็ก รายกลาง และรายใหญ่ รวมแล้วกว่าแสนรายที่ร่วมกันรักษาอาชีพเลี้ยงหมูเอาไว้

ส่วนการปรับราคาสินค้าเป็นไปตามกลไกตลาดและสะท้อนต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ไม่ได้ทำตามอำเภอใจ หรือกำหนดโดยใครได้ วันนี้เกษตรกรเพียงแค่พออยู่ได้บ้าง ที่สำคัญปริมาณหมูที่มีไม่มากจากที่หายไปกว่า 50% เนื่องจากผลกระทบของ ASF ก็ ล้วนอยู่ในมือเกษตรกรทั้งสิ้น ตอนนี้สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการคือการเพิ่มปริมาณผลผลิตโดยเร็วที่สุด หลายฟาร์มใช้วิธีนำหมูขุนตัวเมียมาเป็นแม่พันธุ์ แม้จะรู้ว่าประสิทธิภาพการ ผลิตที่ไม่ดี จำนวนลูกแรกคลอดน้อยกว่ามาตรฐาน แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีลูกหมูเข้าเลี้ยง ทั้งหมดนี้คือต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของเกษตรกร เมื่อปริมาณหมูไม่เพียงพอกับการบริโภค ราคา จึงปรับตามกลไกตลาด แต่เมื่ออุปสงค์สมดุลกับอุปทาน ราคาก็จะปรับตัวได้เอง โดยไม่ต้องมีการควบคุมราคา หรือใช้วิธีนำเข้าหมูมาบิดเบือนตลาดแต่อย่างใด

ขอแสดงความนับถือ
นายสุนทราภรณ์ สิงห์รีวงศ์
นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ

ตอบ คุณสุนทราภรณ์
ถือเป็นข้อมูลอีกด้านที่นำเสนอโดยสมาคมผู้เลี้ยงสุกร เป็นประเด็นน่าคิด กลไกทางการค้ามีความสลับซับซ้อนอยู่ แต่ในขณะเดียวกันต้องยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจปากท้องประชาชนในเวลานี้รุนแรงมาก ภาพรวมของสินค้าทั้งตลาดก็คือแพงไปหมดทุกแผงทุกชนิด

สังคมรอคำตอบจากพม.
เรียน บ.ก.

คดีซื้อบริการทางเพศ จังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้น เหยื่อที่ เป็นเยาวชนถูกนำตัวไว้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อคุ้มครองเด็ก แต่ปรากฏว่ามีข้าราชการ ชั้นผู้ใหญ่ระดับกระทรวงและเจ้าหน้าที่พยายามข่มขู่เด็ก เพื่อไม่ให้ขยายผลการค้ามนุษย์ หนีร้อนมาพึ่งเย็นแต่ถูก ย่ำยี่ข่มเหงซ้ำ เมื่อเป็นเช่นนี้คงจะหวังพึ่งใครไม่ได้แล้ว เป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งเพื่อดูแลเด็กและเยาวชนยังไม่ปลอดภัย เรื่องนี้เจ้ากระทรวงต้องลงมาดูแล สังคมรอคำตอบที่ เด็ดขาดอยู่

นโม

ตอบ นโม
เห็นด้วยอย่างมากว่า คดีนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบในด้านเด็กและเยาวชนมาก ตอนนี้นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนา สังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. ต้องรับบทหนักหน่อย ต้องทำความจริงให้ปรากฏอย่างตรงไปตรงมา ข้าราชการระดับสูงแค่คนเดียวหรือไม่ที่กระทำไม่เหมาะสม รวมทั้งต้องทำให้ประชาชนในสังคมมั่นใจได้ว่าหน่วยงานในสังกัดของพม.จะไม่มีบุคลากรที่มีพฤติกรรมเช่นนี้อีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน