เมื่อวันที่ 15 พ.ค. นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.(ฉบับที่…) พ.ศ. ให้สัมภาษณ์กรณีกมธ.พิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองเสร็จเรียบร้อยแล้วว่า กมธ.มีมติเสียงข้างมาก 32 ต่อ 11 โดยใช้สูตรการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อแบบเอา 100 มาหาร ซึ่งลำดับต่อไปจะพิจารณา ในสภาวาระที่ 2
เมื่อถามว่าจะพลิกกลับมาเป็นใช้สูตรหาร 500 ได้หรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า ไม่มี เพราะในสภาส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างมาก การเห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างน้อย นานๆ ครั้งจะเกิดขึ้น และมีความเป็นไปได้แค่ 1 เปอร์เซ็นต์ที่เคยปรากฏ ซึ่งหากเกิดขึ้น ก็เกิดในกรณีเสียงโหวตในชั้นกมธ.ใกล้เคียงกัน แต่ครั้งนี้เสียงห่างกันมากเกือบ 3 เท่า จึงมั่นใจว่าในชั้นพิจารณาวาระ 2 เสียงข้างมากคงเดิม ทั้งนี้ ร่างที่หารด้วย 100 เป็นร่างที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอให้ครม.
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ ส.ว.จะกลับลำในการพิจารณาวาระ 2 นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าในการโหวตวาระ 2 ส.ว.จะเสียงแตกเป็น 2 แบบ มีทั้งโหวตเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ส.ว.ทั้งสภามี 250 คน และคนที่จะโหวตเห็นด้วยกับ 100 มีจำนวนมาก เพราะ ส.ว.ต้องยึดหลักว่าการโหวตต้องเป็นไปตามกฎหมาย มีข้อกฎหมายที่อ้างได้ และเมื่อ ชั่งน้ำหนักแล้ว สูตรหาร 500 อ้างข้อกฎหมายไม่ได้เลย เป็นการโหวตเพื่อความต้องการ ทางการเมืองมากกว่า ไม่ได้คำนึงถึงกฎหมาย แต่การโหวตสูตร 100 อยู่ในหลักการ ของกฎหมายอยู่แล้ว
