เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในเวทีอภิปรายนานาชาติ 30 ปีพฤษภาประชาธรรม หยุดวัฏจักรรัฐประหาร สร้างรัฐธรรมนูญประชาชน และประสบการณ์จากต่างประเทศ ผ่านระบบซูมว่า 30 ปีผ่านไปเราต้องยอมรับว่าเป็น 30 ปีที่ผู้สนับสนุนประชาธิปไตยในโลกค่อนข้างผิดหวังและตกใจ โดยเฉพาะเหตุการณ์เดือนพฤษภา 35 ใกล้เคียงกับเหตุการณ์สงครามเย็นกำลัง สิ้นสุดลง แต่เรายังพบกับผู้นำอำนาจนิยม หรือที่เรียกว่าเผด็จการเกิดขึ้นอยู่มากมาย ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือรูปแบบการใช้อำนาจมีความหลากหลายสลับซับซ้อน แนบเนียน และมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ถ้าจะเดินหน้าในการสานต่อเจตนารมณ์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ข้อห่วงใยของตนคือ 1.การที่รัฐธรรมนูญยังเปิดโอกาสให้ส.ว.เลือกนายกฯ ได้โดยที่วุฒิสภาไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง หลังการเลือกตั้งครั้งต่อไปมีความสุ่มเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งในกรณีที่ส.ว. 250 คนกับเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนที่ลงคะแนนเลือกตั้งเห็นไม่ตรงกัน จนกลับไปสู่สถานการณ์คล้ายกับปี 2535 ดังนั้น ต้องปลดเร่งด่วนคือมาตรา 272

2.ตนหวังว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคการเมืองและส.ว.ควรจะได้แสดงท่าทียอมรับว่าการจะให้การเมืองเป็นประชาธิปไตย หรือเป็นการเมืองที่ราบรื่น ต้องเป็นการเมืองที่ระบบได้รับการยอมรับจากคนส่วนใหญ่อย่างแท้จริง ดังนั้นการจะปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกร่างรัฐธรรมนูญกันใหม่ที่เป็นฉบับของประชาชนน่าจะเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องช่วยกันผลักดันให้เกิดขึ้น แล้วใช้โอกาสนั้นมาสร้างระบบที่เราปรารถนาให้เกิดขึ้นโดยเรียนรู้จุดบอด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน