บอร์ดออมสินไฟเขียวตั้งบริษัทลูกลุยสินเชื่อที่ดินและรับขายฝากที่ดิน ควักเงินลงทุน 1,000 ล้านบาท หั่นดอกเบี้ยเหลือ 8% เริ่มอัดสินเชื่อก.ย.นี้ ตั้งเป้า ปีแรก 10,000 ล้านบาท
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อประกอบธุรกิจปล่อยสินเชื่อที่ดินและการรับขายฝากที่ดินในรูปแบบ ผู้ประกอบการสินเชื่อที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (นอนแบงก์) ว่าที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารเห็นชอบให้จัดตั้งหน่วยธุรกิจดังกล่าวแล้ว จะต้องจัดตั้งเป็นบริษัทใหม่ ร่วมทุนกับหน่วยงานของรัฐ โดยออมสินจะใส่เงินทุน 1,000 ล้านบาท ถือหุ้นสัดส่วนมากกว่า 51% คาดว่าจะใช้เวลาจัดตั้งบริษัทและวางระบบไม่เกิน 3 เดือน และเริ่มทำธุรกิจให้สินเชื่อได้ตั้งแต่เดือนก.ย.2565
สำหรับสินเชื่อที่ดิน ธนาคารต้องการเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการที่มีที่ดิน แต่ยังติดขัดเรื่องสภาพคล่องที่ต้องการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีประชาชนหรือผู้ประกอบการ ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อเป็นจำนวนมาก จนต้องไปกู้หรือขายฝากนอกระบบที่มีการคิดดอกเบี้ยในอัตราสูง เบื้องต้นธนาคารออมสินกำหนดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่ดินและขายฝากไว้ที่ 8% ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยตลาดที่เฉลี่ยอยู่ราว 40% ถือว่าลดภาระให้กับประชาชนและผู้ประกอบการได้เป็นอย่างมาก
“การจัดตั้งบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจดังกล่าว ได้ผ่านความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แล้ว ซึ่งในระยะเริ่มต้นจะเน้นปล่อยสินเชื่อที่ดินไปก่อน โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับสินเชื่อผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ที่มีเงินของธนาคารออมสินออกมาช่วยผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบในช่วงโควิด-19 ปิดโครงการไปเมื่อวันที่ 30 มี.ค.2565 วงเงินให้กู้ไม่เกิน 70% ของราคาประเมินที่ดินของทางราชการ วงเงินให้กู้กรณีบุคคลธรรมดา ตั้งแต่ 1-10 ล้านบาท กรณีนิติบุคคล 1-50 ล้านบาท ส่วนการขายฝากที่ดินนั้นจะรับขายฝากที่ดินจะดำเนินการในระยะต่อไป”
ก่อนหน้านี้ การขายฝากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะผ่อนปรนในตัววงเงินสินเชื่อมากกว่าสินเชื่อที่ดิน เนื่องจากการขายฝากมีต้นทุนบริหารจัดการน้อยกว่า โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยจะต่ำกว่าการฝากขายที่ดินในตลาด ปัจจุบันธุรกิจขายฝากมีผู้ประกอบธุรกิจจดทะเบียนกับกรมที่ดินเฉลี่ยปีละ 1-2 หมื่นล้านบาท โดยในส่วนของออมสินหลังจากจัดตั้งบริษัทลูกแล้ว คาดว่าปีแรกจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
