คดีแตงโม ก็ยังคงมีแง่มุมใหม่ๆ อยู่ต่อไป เอาขึ้นมาฆ่ากันบนบกแล้วก็มี แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม การติดตามคดีต้องตั้งสติกันให้ดี ต้องแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นกระบวนการคดีจริง เป็นสำนวนพร้อมพยานหลักฐานที่ตรวจพิสูจน์กันรอบด้าน ซึ่งขณะนี้อยู่ในมือของอัยการ
กับอีกส่วน คือ คนในวงนอก ที่เคลื่อนไหวกันคึกคัก โครมคราม โดยตั้งข้อสงสัยไปในอีกมุม คัดง้างกับกระบวนการ สอบสวนของตำรวจที่ทำมา
ในส่วนวงนอกนี้ อาจจะสร้างสีสันให้ฮือฮา แต่ข้อสงสัย ข้อสันนิษฐานนั้น ต้องนำไปสู่พยานหลักฐานที่เป็นชิ้นเป็นอัน
ถ้าเพียงแค่สงสัยไปเรื่อย มีอะไรมาประกอบนิดๆ หน่อยๆ แต่ไม่ใช่หลักฐานเป็นเรื่องเป็นราว สุดท้าย ก็ไม่มีผลอะไร
ขณะที่ในส่วนของกระบวนการคดีที่เป็นหลักนั้น จากสำนวน ของตำรวจได้ผ่านการกลั่นกรองของอัยการจนเกือบจะเสร็จแล้ว ตอนนี้อัยการในระดับภาคตรวจสอบอีกชั้น
แม้จะให้สอบเพิ่มเติม ให้แจ้งข้อหาคนอื่นๆ เพิ่มเติม แต่อัยการก็ยังเห็นพ้องกับข้อหา กระทำโดยประมาทจนทำให้แตงโมถึงแก่ความตาย!
เดิมทีอัยการจะสรุปส่งฟ้องในช่วงปลายเดือนนี้ แต่การตรวจสอบของระดับภาคยังไม่เสร็จ
อัยการจึงเลื่อนการชี้คดีออกไปอีก 1 เดือน
แต่ถึงขณะนี้ ก็ยังเดินหน้าไปตามรูปคดีเดิม คือ ไม่ใช่คดีฆาตกรรม!
สุดท้ายในชั้นอัยการจะส่งฟ้องหรือไม่ หรือฟ้องในข้อหาอะไร
ให้รอกันอีกนิด จะได้คำตอบว่าสำนวนคดีที่ดำเนินการ โดยตำรวจนั้น บิดเบี้ยวเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหา มีการสร้างพยานหลักฐานเท็จตามมีผู้ออกมากล่าวหาตำรวจอย่างรุนแรง จริงหรือไม่!?
ความจริง ถ้ามีใครลุกขึ้นมาโจมตีว่าตำรวจบิดเบือนคดีเพื่อช่วย คนมีเงินมีอิทธิพล คงพร้อมจะมีคนเชื่อทันที
ตำรวจรับเงินเพื่อล้มคดี มีจริง และยังมีอยู่ แต่มักเป็นคดีที่ตำรวจทำคดีกันเงียบๆ ไม่กี่คน หรือไม่ก็ต้องรอให้เรื่องซาไป ไม่มีประชาชนสนใจ
ต่างจากคดีแตงโม ที่คนตายมีชื่อเสียง มีตำรวจระดับผู้บัญชาการภาคคุมเอง มีคณะทำงานหลายฝ่าย แถมระดับผบ.ตร.ก็ตรวจสอบอีกชั้น!
ก่อนหน้านี้พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กล่าวอย่างเชื่อมั่นในสำนวนคดีว่า สุดท้ายก็คงลงเอยแบบคดีเกาะเต่า
คดีเกาะเต่านั้น นักสืบโซเชี่ยล ขุดคุ้ยมากมาย แล้วปักใจว่า ตำรวจจับแพะ
มีหมอนักโต้แย้งตำรวจ ไปเบิกความในศาลเพื่อโต้แย้งตำรวจด้วย
สุดท้ายคดีเกาะเต่า ศาลลงโทษประหารทั้ง 3 ศาล
เพราะพยานหลักฐานที่ตำรวจรวบรวมมามีน้ำหนัก
การขยันตั้งข้อสังเกต ข้อสงสัย จุดประกายฮือฮา มีคนชื่นชมยกย่องกันไป
แต่สุดท้ายต้องพิสูจน์กันในชั้นศาล ว่าใครมีพยานหลักฐานเป็นจริงกันแน่!!
วงค์ ตาวัน
