ไปกันใหญ่แล้วจริงๆ สำหรับผลต่อเนื่องของคดีแตงโม ที่เสียชีวิตจากการตกเรือสปีดโบ๊ตระหว่างล่องแม่น้ำเจ้าพระยา

ที่แม้การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะสรุปเป็นคดีประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต พร้อมดำเนินคดี 6 ผู้ต้องหา

แต่ก็ยังมีอีกกลุ่มที่เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวเป็นคดีฆาตกรรม และหลังจากออกสื่ออย่าง ต่อเนื่อง ยืนยันมีหลักฐานชัดเจน แม้ไม่มีใครได้เห็น

ก็ทำให้แม่แตงโมเกิดหวั่นไหวเปลี่ยน ท่าทีจากที่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุพลัดตกเรือ ไปเชื่อว่าเป็นเรื่องฆาตกรรม

แฟ้มคดี - คดีแตงโมบานไปไกล กระติกแจงหยดเลือด เป็นเรื่องเล็กในสำนวน ส.ส.เต้ขู่กระทืบทนาย

ประกาศแยกทางกับทนายเดชา หันพึ่งคณะส.ส.เต้-อัจฉริยะ ลั่นเดินหน้าทวงความยุติธรรมให้ลูกสาว

แต่ระหว่างนั้นก็มีเรื่องมากมาย ทั้งการขู่กระทืบทนาย จากส.ส. การอ้างพบรอยเลือดในเสื้อผู้ต้องหา ตลอดจนการเปิดคลิปเสียงคนอ้างเป็นบังแจ๊คแฉขบวนการตบทรัพย์

รวมทั้งข้อความเตือนจากอดีตคนเคยรักอย่างทนายเดชา ที่ห่วงว่าหากคดีฆาตกรรมยกฟ้อง คุณแม่อาจตกเป็นจำเลยเสียเองในคดีฟ้องเท็จ

ทุกอย่างเป็นเรื่องชุลมุนชุลเก ที่รอการคลี่คลาย

แม่พึ่งสส.เต้-เชื่อฆาตกรรม

จากกรณีข้อพิพาทจากโทรศัพท์แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ดาราสาว ถูกส่งไปให้บังแจ๊ค หรือนายซาคาเนีย ราชา ไฮเดอร์ ชาวปากีสถาน ที่ถูกแบล็กลิสต์ห้ามเข้าประเทศไทย โดยฝีมือของคุณแม่ ภนิดา ศิระยุทธโยธิน ที่ก่อนหน้านี้อ้างว่าส่งให้นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความเก็บไว้

เมื่อนายเดชาเปิดสำนักงานแถลงเมื่อวันที่ 25 พ.ค. วันรุ่งขึ้น นางภนิดาก็เปลี่ยนทนายความทันที โดยหันไปร่วมทีมกับนาย มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม

แฟ้มคดี - คดีแตงโมบานไปไกล กระติกแจงหยดเลือด เป็นเรื่องเล็กในสำนวน ส.ส.เต้ขู่กระทืบทนาย

โดยนายมงคลกิตติ์ระบุว่า นางภนิดามาขอร้องให้ตนช่วยเหลือ คดีการเสียชีวิตของแตงโม จึงตั้งทีมขึ้นมารับผิดชอบ โดยตนและ นายอัจฉริยะจะเป็นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ ใช้ทีมกฎหมายจากพรรคไทยศรีวิไลย์ดูแลทั้งหมด คาดว่าใช้เวลาประมาณ 2 ปีครึ่งหลังจากนี้คดีถึงจะสิ้นสุด ก็จะดูแลแม่แตงโมทั้งหมด ยืนยันเพื่อคืนความยุติธรรมให้กับผู้เสียหาย จะให้คดีนี้เป็นตัวอย่างการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม

ขณะที่ทีมกฎหมายของแม่แตงโมก็ยืนยันเชื่อมั่นว่าเป็นคดีฆาตกรรมแน่นอน โดยนายอัจฉริยะระบุว่า มีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นเรื่องฆาตกรรมอำพราง จะใช้โดรนดำสำรวจใต้น้ำหาอาวุธสังหาร เพื่อนำมาเป็นหลักฐาน จะขอพิสูจน์เรือใหม่ และฟ้องร้องบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมอำพรางแตงโม เชื่อว่าบาดแผลที่ขาขวาไม่ได้ถูกใบพัดเรือ แต่ถูกมีดกรีด แต่หลักฐานบางอย่างไม่สามารถเปิดให้คนทั้งประเทศดูได้

นอกจากนี้ยังเปิดหลักฐานใหม่ ระบุว่ามีคราบเลือดตรงกับดีเอ็นเอแตงโม 2 จุด อยู่ที่เสื้อผ้าหนึ่งในผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหารายนี้เป็นคนที่พูดเก่งๆ หลักฐานตรงนี้มีการออกโดยหน่วยงานของรัฐ แต่ไม่รู้ว่าตำรวจใส่ในสำนวนหรือส่งให้อัยการหรือไม่ โดยเรื่องนี้เป็นหนึ่งเรื่องที่จะยื่นให้อัยการตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นการฆาตกรรม

“ทราบว่าอัยการจะสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหก ในวันที่ 23 มิ.ย. เรายังมีเวลารวบรวมพยานหลักฐานก่อนนั้น และจะฟ้องดำเนินคดีเองทั้งหมด”

เช่นเดียวกับนางภนิดาที่ระบุว่า ได้ดูหลักฐานจากมือถือแตงโม ที่บังแจ๊คกู้ออกมาแล้ว ยังเชื่อว่าแตงโมเสียชีวิตตั้งแต่อยู่บนบก!!

เป็นความเชื่อที่นำไปสู่คดีอีกมากมาย

กระติกแจงปมเลือด-แฉตบทรัพย์

หลังจากการเปิดเผยสิ่งที่อ้างว่าเป็นหลักฐานใหม่ของนายอัจฉริยะ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. ก็แถลงตอบโต้ทันควัน ว่าขณะนี้มีคนหรือกลุ่มบุคคลอ้างว่าได้ค้นพบวัตถุพยานในคดีของน.ส.ภัทรธิดา และสามารถนำมาเป็นวัตถุพยานสำคัญในคดีของน.ส.ภัทรธิดา โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่อาจจะปนเปื้อนคราบโลหิต หรือดีเอ็นเอของบุคคลบนเรือนั้น

ขอเรียนให้ทราบว่าวัตถุพยานที่กำลังกล่าวอ้างถึงหรือวัตถุพยานอื่นๆ พนักงานสอบสวนได้รวบรวมและผ่านกระบวนการทางการสอบสวน กระบวนทางนิติวิทยาศาสตร์ ได้ถูกรวบรวมไว้ในสำนวนการสอบสวนไว้ตั้งแต่เบื้องต้นแล้ว

การที่มีบุคคลมากล่าวอ้างว่าได้ค้นพบ หลักฐานใหม่ขอยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร และที่สำคัญ วัตถุพยาน พยานบุคคล หรือพยานอื่นใด สำนวนการสอบสวนไม่สามารถนำมาตีแผ่เล่าให้กับสังคมฟังได้ทุกเรื่อง เนื่องจากเป็นความลับในสำนวนการสอบสวน ซึ่งอาจจะมีส่วนได้ส่วนเสียกับบุคคลอื่นใดที่อยู่ในสำนวน

เมื่อพนักงานสอบสวน หรือฝ่ายสืบสวน ตั้งประเด็นหรือข้อสงสัย สมมติฐาน ว่าอะไรจะเกี่ยวข้องในคดีบ้างแล้ว เราก็จะไปทำหน้าที่ทำกระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่างโดยไม่มีข้อละเว้น จากนั้นนำมาชั่งน้ำหนักพยาน นำไปสู่การสรุปสำนวนการสอบสวน ซึ่งสำนวนการสอบสวนนี้จะสรุปและส่งพนักงานอัยการไปแล้ว มีความเห็นไปที่พนักงานอัยการแล้ว พนักงานอัยการเวลานี้อยู่ในกระบวนการขั้นตอนที่จะดำเนินการต่อไปในกระบวนการยุติธรรม

ขณะที่กระติก-อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ เพื่อนและผู้จัดการแตงโม ที่ตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องหา ก็ท้าให้นายอัจฉริยะที่บอกว่ามีหลักฐานชัดเจน ก็ให้เปิดเผยออกมา ไม่ต้องกลัวถูกฟ้อง เพราะถ้าผิดก็คือผิด ถ้าเห็นชัดว่าฆ่ากัน เอามีดกรีดกันจะสนใจเรื่องเวลาทำไม และย้ำว่าอย่าทำให้แฟนคลับผิดหวัง

พร้อมระบุว่าดีเอ็นเอหรือเลือดที่พบนั้นมาจากเสื้อผ้าที่ตนใส่วันเกิดเหตุ เพราะตนกับแตงโมใส่เสื้อผ้าร่วมกันอยู่แล้ว โดยเสื้อตัวนี้แตงโมไปออกรายการตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2564 ตนเอามาใส่ต่อวันลงเรือ และเรื่องนี้ให้การตำรวจไว้เรียบร้อย อีกทั้งจุดเลือดบนเสื้อมีขนาดเท่าเข็มหมุด จึงมองไม่เห็น

ส่วนแซน-วิศาพัช มโนมัยรัตน์ หนึ่งในผู้ต้องหาพร้อมทนายความก็เปิดเผยว่ามีคลิปเสียงของคนอ้างเป็นบังแจ๊ค โทร.จากสหรัฐระบุว่า มีใครบางคนในกลุ่มที่พยายามพลิกคดี พยายามจะเคลียร์ปัญหาให้แลกกับเรื่องเงิน

กลายเป็นข้อสงสัยที่รอความชัดเจน

แฟ้มคดี - คดีแตงโมบานไปไกล กระติกแจงหยดเลือด เป็นเรื่องเล็กในสำนวน ส.ส.เต้ขู่กระทืบทนาย

‘เดชา’แจ้งจับ‘มงคลกิตติ์’ขู่ตื้บ
ขณะที่นายเดชา ที่กลายเป็นอดีตทนายคดีนี้ระบุว่า ได้รับข่าวลือว่า คดีแตงโม สุดท้ายจะไม่มีฟ้องตรงต่อศาลข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ทำได้เพียงขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการเท่านั้น ซึ่งก็เป็นคดีประมาท และว่าคณะสามช่าที่รวมตัวแถลงข่าวเป็นคดีฆาตกรรมนั้นเป็นแค่คนอยากดังมีพื้นที่สื่อ ไม่มีหลักฐานทั้งสิ้น เป็นเพียงการปั่นกระแสไปเรื่อย พอสื่อมวลชนขอดูหลักฐานก็อ้างเปิดไม่ได้เพราะจะถูกฟ้องร้อง ตอนนี้ถึงทางตันเป็นมวยล้มต้มคนดู

นายเดชากล่าวอีกว่า คดีฆาตกรรมต้องมีหลักฐานชัดเจน เช่น มีประจักษ์พยานเห็นว่ามีคนฆ่ากัน มีกล้องวงจรปิด และพยานเห็นอาวุธ ซึ่งหากไม่มีก็พลิกไม่ได้ ไม่ใช่ว่ามาอาศัยกองเชียร์หรือความเห็นทางโซเชี่ยล เพราะทุกวันนี้มีแต่ศพเท่านั้น

“ตลอดเวลาที่ผ่านมา 77 วันที่เคยรับหน้าที่เป็นทนายความให้ นางภนิดา ไม่มีพยานหลักฐานอะไรที่บ่งชี้ว่าคดีนี้เป็นการกระทำโดยเจตนา ท้ายสุดหากพยายามทำให้คดีนี้เป็นคดีฆาตกรรม คดีนี้จะ เสียหาย แตงโมจะตายฟรีเพราะคดีถูกยกฟ้อง และแม่จะไม่ได้เงิน 200 ล้านบาท และอาจถูกฟ้องกลับในข้อหาฟ้องเท็จ, เบิกความเท็จ จึงอยากให้คิดดีๆ ไปปรึกษากับนักกฎหมายก่อน”

พร้อมท้าให้นายมงคลกิตติ์ และนายอัจฉริยะ ให้สัตยาบันว่าจะร่วมเป็นจำเลยกับคุณแม่ ไม่ทิ้งแม่ไปไหน

เลยเถิดจนกระทั่งปรากฏคลิปเสียงของนายมงคลกิตติ์โทรศัพท์หานายเดชา เพื่อขอให้หยุดพาดพิงถึงคดีและแม่แตงโม รวมทั้งการพาดพิงถึงแก๊งตัวตลก และมีถ้อยคำ อาทิ ถ้าเป็นคนอื่นคงส่งคนไปกระทืบแล้ว และจะใช้วิธีทางการเมืองเข้าจัดการ

จนเป็นเหตุให้นายเดชาเข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.ภูมิระพี สังข์ทอง ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. กรณีถูกนายมงคลกิตติ์ข่มขู่ทำร้ายร่างกายหากไม่หยุดวิจารณ์คดีการเสียชีวิตของแตงโม ในความผิด เกี่ยวกับเสรีภาพ มาตรา 309 และข้อหาทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว

และจะร้องเรียนต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับพฤติกรรม และจริยธรรมนักการเมือง

นอกจากนี้ยังยื่นกมธ.ป.ป.ช. พิจารณาพฤติกรรมว่าเข้าข่ายการ ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม อั้งยี่ ซ่องโจร หรือไม่

บานปลายไปหลายคดี และคงไม่มีท่าทีจะจบง่ายๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน