เมื่อวันที่ 5 ก.ค. นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแส “ชัชชาติฟีเวอร์” ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มองประเด็นนี้ตั้งแต่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.แล้ว และพยายามทบทวนแนวทางการขับเคลื่อนพรรคพลังประชารัฐ จะเห็นได้ชัดว่าตอนนี้เริ่มขยับ ทั้งนโยบาย 3 เสาหลัก เศรษฐกิจฐานราก เรื่องน้ำ มีเราไม่มีแล้ง และจะจัดเวที โรดโชว์ไปตามภาคต่างๆ 10 พื้นที่ รวมทั้งจะมีนโยบายใหม่ๆ ออกมานำเสนอประชาชน

เมื่อถามว่ามั่นใจต่อสู้กระแสชัชชาติฟีเวอร์ได้หรือไม่ นายนิโรธกล่าวว่า นายชัชชาติ มีบุคลิกทำงานของท่าน คิดว่าคนกทม.ตัดสินใจเลือกนายชัชชาติตั้งแต่ลาออกจากพรรค เพื่อไทย ตนมั่นใจว่านายชัชชาติคงไม่คิดกลับมาเล่นการเมืองในสนามเลือกตั้งใหญ่ เพราะมุ่งมั่นในการทำหน้าที่ผู้ว่าฯ กทม.

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) ยืนยันรัฐบาลจัดระเบียบสายไฟ-สายสื่อสาร มาตลอด แต่ประชาสัมพันธ์สู้นายชัชชาติไม่ได้ว่า สะท้อนแนวคิดการทำงานแบบน้ำเต็มแก้วของนายชัยวุฒิและรัฐบาลชุดนี้ หากมีผลงานที่จับต้องได้ ต่อให้ไม่ต้องประชาสัมพันธ์จะมีการพูดถึงปากต่อปาก ซึ่งเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ยั่งยืน

รัฐบาลใช้เงินภาษีของประชาชนประชาสัมพันธ์นโยบายภาครัฐต่อปีไม่ต่ำกว่า 2,400 ล้านบาท โดยปีงบประมาณ 2565 เฉพาะกรมประชาสัมพันธ์ได้ 2,423 ล้านบาท ขณะที่ทีมงานถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กในการลงพื้นที่ของผู้ว่าฯ กทม.ใช้ช่างภาพ 1 คนกับโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง คาดว่าใช้เงินไม่เกิน 7-8 แสนบาทต่อปี แต่ประสิทธิผลที่ได้แตกต่างกันอย่างลิบลับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน