เมื่อวันที่ 12 ก.ค. รายงานข่าวเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดทางคดีอาญา นายวิฑูรย์ นามบุตร กับพวก 5 ราย กรณีถูกกล่าวหากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น และมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด กรณีเรียกรับเงิน จำนวน 30 ล้านบาท ในการร่วมลงทุนและช่วยเหลือการก่อสร้างโครงการสิ่งสาธารณูปโภคของทางราชการ เมื่อปี 2556-2557
มติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เสียงข้างมากเห็นว่า นายวิฑูรย์กับพวกมีความผิดทางอาญาตามมาตรา 149, 157 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ส่วนกรรมการ ป.ป.ช. เสียงข้างน้อย 1 เสียง เห็นว่าไม่ผิดตามมาตรา 149
ในสำนวนการไต่สวนของป.ป.ช.คดีนี้ระบุว่า นายวิฑูรย์ได้รับเงินไปแล้วเกือบ 30 ล้านบาท โดยผ่านการจ่ายเป็นเงินสด และการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของบุคคลอื่นด้วย
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการป.ป.ช.เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.วันที่ 12 ก.ค.2565 มีมติชี้มูลความผิดนายวิฑูรย์ อดีตส.ส.อุบลราชธานี และกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 กับพวกรวม 5 รายจริง ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช. รับรองมติการประชุมก่อน แล้วจะมีการแถลงรายละเอียดให้ทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิฑูรย์เป็นอดีตนักการเมือง ชื่อดังในจ.อุบลราชธานี เคยเป็นส.ส.มาแล้ว 6 สมัย และเคยเป็นกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โดยเป็นกำลังสำคัญในภาคอีสาน แต่เมื่อปี 2564 ได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ท่ามกลางกระแสข่าวว่าอาจย้ายเข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย หรือพรรคภูมิใจไทย
