เป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องจากศึกอภิปราย ไม่ไว้วางใจที่น่าติดตาม

สำหรับกรณีที่สลิปการโอนเงินให้กับส.ส.พรรคเล็กหลายต่อหลายงวด ถูกนำมาเปิดเผยแฉกันอย่างอึกทึกครึกโครม

จนถูกตั้งคำถามว่านี่คือใบเสร็จของการแจกกล้วยส.ส.ในสภา เพื่อแลกเสียงโหวตจริงหรือไม่อย่างไร

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อส.ส.พรรคเล็กออกมาพูดบ้าง ก็ยิ่งฮือฮามากขึ้น

เพราะเป็นการยอมรับว่ามีการโอนเงินให้ส.ส.พรรคเล็กจริง แม้จะบอกว่าเป็นเงินยืมจากร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย อดีตเลขาธิการพปชร.

แถมยังระบุอีกว่า แม้แต่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพปชร. ก็เคยถูกยืม!!?

ยิ่งไปกว่านั้นไม่ใช่แค่ส.ส.พรรคเล็ก แต่มีส.ส.พปชร.อีกนับร้อย ที่มีพฤติกรรม ในลักษณะดังกล่าว

แถมเหตุการณ์ทั้งหมดยังเกิดขึ้น ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ ที่มั่นสำคัญของพล.อ.ประวิตร อีกด้วย

จึงกลายเป็นเรื่องราวที่ส่อเค้าบานปลายกระทบต่อส.ส.รัฐบาลอย่างแน่นอน

เพราะกฎหมายป.ป.ช.มาตรา 128 กำหนดไว้ว่าส.ส. หรือเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่สามารถรับประโยชน์เกิน 3 พันบาทได้ ซึ่งมีทั้งโทษจำและปรับ

แถมหากเป็นการรับเพื่อจูงใจให้ลงมติอย่างหนึ่งอย่างใด ก็เข้าข้อหารับสินบน ผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 อีก ซึ่งกรณีนี้โทษสูงสุดถึงประหารชีวิต

ไม่เพียงแค่นั้นยังมีเรื่องของการครอบงำพรรค ที่กำหนดไว้ในพ.ร.บ. พรรคการเมือง

เพราะชัดเจนอยู่แล้วว่าบรรดา ‘พรรคเล็ก’ มีพรรคของตัวเอง ไม่ใช่สมาชิกพปชร. แล้วการเข้าไปหารือ ในบ้านป่ารอยต่อ ชัดเจนเช่นนี้ ย่อมต้อง ถูกตั้งคำถามถึงเรื่องการครอบงำพรรค

และหากกกต.พิจารณาแล้วมีความผิด ก็ต้องร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้สั่งยุบพรรค และอาจนำมาสู่การ ตัดสิทธิ์ทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรค

เป็นเรื่องที่ทั้งพปชร.และพรรคเล็กต้องเผชิญ

ที่เหลือก็แค่รอดูมาตรฐานการทำงาน ของทั้งป.ป.ช.และกกต. ที่จะต้องทำหน้าที่ในเบื้องต้น

ดูกันว่ามีหลักฐานชี้ชัดขนาดนี้ จะพิจารณาออกมาอย่างไร

เป็นเรื่องที่ประชาชนทั้งประเทศจับตาดู!!!!

รุก กลางกระดาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน