โครงการคนละครึ่ง เฟส 5 มาแล้วแบบเหนือความคาดหมายและ ไม่คาดคิด

เพราะก่อนหน้านี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลังบอกว่าจะ ไม่ทำต่อแล้ว เพราะยอดเงินที่เหลือจากโครงการเงินกู้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเหลืออยู่แค่ 7.5 หมื่นล้านเท่านั้น

นายอาคมยังระบุด้วยว่าเมื่อเศรษฐกิจกำลังจะฟื้นตัวดีขึ้นเรื่อยๆ โครงการคนละครึ่งเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายก็ไม่จำเป็นแล้ว

แต่สุดท้าย คณะรัฐมนตรีอนุมัติวงเงินจำนวน 27,426 ล้านบาท จากโครงการเงินกู้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จากการระบาดเของโควิด-19 เพิ่มเติมจำนวน 5 แสนล้านบาท

ส่วนหนึ่งเพื่อสานต่อโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ในวงเงิน 2.12 หมื่นล้านบาท แจก ผู้มีสิทธิ์คนละ 800 บาท เป็นเวลา 2 เดือน

สรุปแล้วตกเดือนละ 400 บาท โดยสามารถใช้ได้สูงสุดวันละ 150 บาทเท่านั้น ซึ่งจะสามารถใช้จ่ายได้ ก็ต่อเมื่อนำเงินมาเติมอีกครึ่งหนึ่งเท่านั้น

จึงจะมีสิทธิ์ใช้เงินจากแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง”

นอกจากนี้ ยังอนุมัติเงินอีกส่วนหนึ่ง สนับสนุนกลุ่มมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกลุ่มเปราะบางอีกคนละ 400 บาทด้วย

เรื่องนี้ รมว.คลังให้สัมภาษณ์หลัง ครม.อนุมัติโครงการช่วยเหลือประชาชนทั้งโครงการคนละครึ่ง บัตรคนจน และช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ว่าที่ให้น้อยลงเพราะเศรษฐกิจดีขึ้น

แจกให้ตามความเหมาะสม เพื่อรับมือกับราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่จะเพิ่มขึ้นในเร็วๆ นี้

กรณีนี้ พรรคฝ่ายค้านวิจารณ์ว่าเป็นการเอาเงินจากประชาชนมาหมุนเวียนในระบบ ไม่ใช่การช่วยเหลืออย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ช่วยแบบขอไปที

ทั้งที่สถานการณ์ปากท้องในวันนี้ ประชาชนรายได้ลดลงจนแทบไม่พอกิน ต่อให้ได้สิทธิ์ก็ไม่มีปัญญาหาเงินมาเติมเพิ่มเพื่อใช้จ่ายได้

สำหรับโครงการคนละครึ่งมีมาแล้ว 4 เฟส เฟสแรกแจกคนละ 3,000 บาท สูงสุดแจกคนละ 4,500 บาทใน เฟส 2-3

ต่อมามาเฟส 4 ลดเหลือ 1,200 บาท พบว่าประชาชนใช้จ่ายเงินของตนเองมากกว่าที่รัฐจ่ายให้

โดยจำนวนเงินที่ประชาชนจ่ายอยู่ที่ 30,863.4 ล้านบาท แต่รัฐร่วมจ่ายแค่ 29,754.4 ล้านบาท กลายเป็นประชาชนช่วยเหลือรัฐไป

นอกจากนี้ ยังเป็นที่น่าสังเกตว่าเงินที่นำมาแจกในครั้งนี้ เป็นไปเพื่อการหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งใหญ่ในปีหน้าหรือไม่?

เภรี กุลาธรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน