เป็นสัปดาห์การเมืองร้อนแรง แต่ก็จะเห็นความชัดเจนมากขึ้น
หลังจากที่ประชุมร่วมรัฐสภาสัปดาห์ก่อน ขอถอนร่างพ.ร.ป. หรือกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งจะนำกลับเข้าที่ประชุมอีกครั้ง 2-3 ส.ค.
เหลืออยู่ 9 มาตรา กรรมาธิการคาดว่าจะเสร็จทันวันที่ 3 ส.ค. ถ้าไม่ทันก็ยังมีวันที่ 9-10 ส.ค. ถึงอย่างไรก็เสร็จก่อนครบเส้นตาย 180 วัน 15 ส.ค.นี้แน่นอน
ส่วนประเด็นพูดถึงกันมากเรื่องเปลี่ยนสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อจากหาร 500 กลับมาเป็นหาร 100 นั้น พูดได้ แต่ทำยาก เนื่องจากผ่านพิจารณาวาระ 2 มาแล้ว กลับไปแก้ไขอีกไม่ได้
วิธีเดียวคือปล่อยไปตามขั้นตอนในรัฐธรรมนูญคือ หลังจากพิจารณาเห็นชอบวาระ 3 ต้องส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. พิจารณาให้ความเห็น
ซึ่งความเห็น กกต.อาจส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงประเด็นเรื่องสูตร คำนวณส.ส.แบบบัญชีรายชื่อได้อีก หาก กกต.เห็นว่าเนื้อหาในร่างพ.ร.ป.ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญได้
รัฐสภาก็ดำเนิการนแก้ไขร่างพ.ร.ป. ตาม ข้อเสนอของ กกต.ได้ตามที่เห็นสมควร แม้ที่สุดแล้วทุกอย่างต้องไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญก็ตาม
สรุปคือหาร 500 หรือ 100 ยังมีโอกาสพลิกอีกหลายตลบ
เว้นแต่ผู้มีอำนาจจะกดปุ่มสั่งการ ส.ส.รัฐบาล และส.ว. โหวตคว่ำวาระ 3 กลับไปนับหนึ่งใหม่ ซึ่งก็จะเสียเวลาไปอีกหลายเดือน ขณะที่การเลือกตั้งใกล้เข้ามา เผลอๆ อาจปลายปีนี้เสียด้วยซ้ำ การคว่ำวาระ 3 จึงไม่ใช่ทางออกที่ดี
ยกเว้นบางคนต้องการซื้อเวลา ลากยาวอำนาจตัวเองออกไปให้นานที่สุด หรือจนกว่าจะครบวาระมี.ค.2566
หรือไม่ ก็ยังมีวิธีการเลวร้ายกว่านั้น อย่างที่มีนักการเมือง อดีต กกต.ตั้งข้อสังเกตดักคอ
เมื่อคว่ำวาระ 3 รัฐบาลอาจแสดงความรู้สึกกังวลใจหากจะเสนอกฎหมายลูกเข้ามาใหม่ ที่ต้องใช้เวลามาก เกรงจะไม่ทันเลือกตั้งต้นปีหน้า
ฉะนั้นเพื่อให้การเลือกตั้งที่ใกล้จะมีขึ้น เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงขอแก้รัฐธรรมนูญกลับไปเหมือนเดิม ปี 2560
ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ไม่ต้องแก้ไขกฎหมายลูกใดๆ ให้เสียเวลา เพราะใช้ของเดิมได้เลย
ออกจะสลับซับซ้อนอยู่บ้าง แต่ ภายใต้รัฐบาลชุดนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
มันฯ มือเสือ