มหาสารคาม เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่กึ่งกลางของภาคอีสานไม่มีภูเขา มีลำน้ำชี ไหลผ่าน จุดเด่นของเมืองนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง คือ เป็นเมืองการศึกษาได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองแห่งการศึกษา หรือ ตักสิลาอีสาน

ยังมีความโดดเด่นทางด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมประเพณี และความเจริญรุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนา เห็นได้จากมีศาสนสถานวัดเก่าแก่หลายแห่งก่อสร้างมาพร้อมกับการตั้งเมืองมหาสารคามปรากฏอยู่จนปัจจุบัน อาทิ วัดมหาชัย (พระอารามหลวง) วัดอภิสิทธิ์ วัดอุทัยทิศ เป็นต้น

นอกจากจะมีศาสนสถานวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองแล้วในปัจจุบันในพื้นที่มหาสารคาม ยังมีการขออนุญาตจัดตั้งวัดขึ้นใหม่หลายแห่ง ต่อมาวัดบางแห่งกลายเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวทางศาสนาที่สวยงามอลังการ ในช่วงวันธรรมดาหรือวันหยุดนักขัตฤกษ์จะมีนักท่องเที่ยวสายบุญแวะเวียนเข้ามาเที่ยวชมทำบุญไหว้พระมิได้ขาด ทำให้ท้องถิ่นมี รายได้จากการท่องเที่ยว

สำหรับศาสนสถานแหล่งท่องเที่ยว ยอดฮิตอันดับต้นของเมืองมหาสารคามยุคใหม่ เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศนั่น คือ วัดพุทธวนาราม หรือวัดป่าวังน้ำเย็น ตั้งอยู่ ต.เกิ้ง อ.เมือง ก่อตั้งโดย พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ หรือ พระครูภาวนาชยานุสิฐ ประธานสงฆ์วัดป่าวังน้ำเย็น และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาชัย (พระอารามหลวง)

เริ่มก่อสร้างวัดแห่งนี้ เมื่อปี พ.ศ.2549 โดยญาติโยมในพื้นที่ประกอบด้วย “จำเนียร แซ่อึ้ง” และ “สมถวิล สุทธิวารี” ร่วมบริจาคที่ดินบริเวณบ้านวังน้ำเย็น เนื้อที่กว่า 11 ไร่ คือ บริเวณที่ตั้งวัดป่าวังน้ำเย็น ในปัจจุบัน มอบถวายให้พระอาจารย์สุริยันต์สร้างวัด

ซึ่งพระอาจารย์สุริยันต์ร่วมแรงร่วมใจ กับญาติโยมและคณะศิษย์ พัฒนาที่รกร้าง ว่างเปล่าผืนนี้ จนกลายสภาพเป็นวัดป่า วังน้ำเย็นในปัจจุบัน

ปัจจุบัน สิริอายุ 43 ปี พรรษา 23 สืบสายธรรมจากหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง จ.นครพนม

เกิดในปี พ.ศ.2522 ที่บ้านเหล่าโคกพระ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เข้าพิธีอุปสมบท ที่อุโบสถวัดสามัคคีธรรม อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ต่อมาฝากตัว ขอเป็นศิษย์หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดนครพนม และของภาคอีสาน

พัฒนาถาวรวัตถุภายในวัดป่าวังน้ำเย็น ลุล่วงในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อนักท่องเที่ยวสายบุญเดินทางเข้ามาภายในเขตวัด อย่างแรกที่มองเห็นคือ พระมหาเจดีย์สีทองเหลืองอร่ามขนาดใหญ่ และถาวรวัตถุที่สร้างจากวัสดุไม้ซุงขนาดใหญ่ อาทิ หอระฆัง ศาลาปฏิบัติธรรมไม้ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เสา 108 ต้น และอุโบสถไม้ซุงใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เฉพาะเสาไม้ซุงจำนวน 32 ต้นใหญ่ กว้าง 32 เมตร ยาว 70 เมตร เป็นต้น

ในช่วงนี้ วัดกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างวิหารไม้ สำหรับประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำแท้ปางมารวิชัย น้ำหนักกว่า 760 ก.ก. มูลค่ากว่า 700 ล้านบาท ที่พุทธศาสนิกชนจาก สปป.ลาว นำมาถวายเมื่อปี พ.ศ.2562 เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะประกอบพิธีอัญเชิญพระพุทธรูปทองคำประดิษฐานไว้ เพื่อเปิดให้พุทธศาสนิกชนได้เข้ากราบไหว้บูชาขอพร

สภาพบรรยากาศภายในวัดป่าวังน้ำเย็นในช่วงวันธรรมดา หรือวันหยุดยาวต่อเนื่อง จะมีนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกพื้นที่ รวมทั้งชาวต่างประเทศ เดินทางเข้ามาทำบุญกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และเที่ยวชมถาวรวัตถุภายในวัดแห่งนี้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณด้านหน้าอุโบสถไม้มีองค์ท้าวเวสสุวรรณประดิษฐานอยู่ นักท่องเที่ยวให้ความนิยมนำดอกไม้ร่วมทำบุญนำธูปเทียนมาสักการบูชาขอพรกันไม่ขาดสายตลอดวัน

จากนั้นจึงพากันขึ้นไปกราบสักการะพระพุทธรูปประธานสร้างจากไม้บนอุโบสถ เสร็จแล้วก็ไปทำบุญปิดทองลูกนิมิตภายในศาลาไม้หลังใหญ่ และสักการะพระมหาเจดีย์ ทำบุญให้อาหารปลา และให้อาหารช้าง ก่อนเดินทางกลับก็ต้องเข้ากราบขอพรจากพระอาจารย์สุริยันต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล

วัดป่าวังน้ำเย็น กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนของเมืองมหาสารคาม ที่นักท่องเที่ยวสายบุญไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางผ่านเข้ามายังเมืองมหาสารคาม เส้นทางการคมนาคมสะดวกอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 2-3 กิโลเมตร เท่านั้น

เชิด ขันตี ณ พล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน