ห่างงานเพลงไปนานถึง 8 ปี ล่าสุดสาวอารมณ์ดี ‘ซาร่า’ นลิน โฮเลอร์ หวนจับไมค์อีกครั้ง จับคู่ ‘แอช จอร์แดน’ (Ash Jordan) แร็พเปอร์ นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์จากอเมริกา ทำเพลง “TIGERZ” ในนามวง “Junglcity” ภายใต้สังกัด ENLIGHTM

งานนี้ไม่ใช่แค่ร่วมกันทำเพลง แต่เรื่องของหัวใจ ทั้งคู่ก็กำลังศึกษาดูใจกันอยู่

อะไรที่จุดประกายกลับมาทำงานเพลงอีกครั้ง?
ซาร่า – “น่าจะเป็นจังหวะและเวลา หลังไปเดบิวต์ที่จีนก็ไม่ได้ทำอีกเลย ที่ผ่านมาจังหวะไม่ได้ จนมาเจอแอช ซึ่งเป็นช่วงที่ทุกอย่างเริ่มดีขึ้น และพอได้คุยกันในเรื่องแพสชั่นหลังจากที่ได้คุยกับเขาสักพัก เริ่มรู้ว่าเขาเป็นโปรดิวเซอร์ มีประสบการณ์การทำเพลงเยอะมาก ส่วนเราก็ยังคงมีความฝันอยากทำเพลงอยู่ พอได้คุยกันก็เลยลองดูสักตั้ง กลับมาพัฒนาตัวฝึกร้องเพลง ต้องขอบคุณแอชที่เข้ามาผลักดันในเรื่องดนตรี โปรดิวซ์เพลงให้ ซึ่งเขามีความสามารถมากๆ แต่งเนื้อเพลงให้เราได้ จริงๆ เพลงนี้เขาก็ให้เราแต่งเอง เพราะเขาบอกว่าถ้าเป็นเพลงของคุณ คุณก็ควรทำเอง เขาฝึกให้เราทำเองหมดเลย”

แอช – “จริงๆ ซาร่ามีประสบการณ์เยอะ สิ่งที่ฝึกให้คือแค่เชื่อในตัวเอง เริ่มทำแล้วอย่าหยุด พอหยุดมันทำให้ท้อ พอท้อมันก็จะไม่สำเร็จในสิ่งที่ก้าวออกมาจากกำแพง ค่อยๆ ใช้เวลากับมัน”

ซารา – “เราท้อหลายรอบ พอเขาพูดว่าอย่าหยุด อีกก้าวเดียวๆ ทำให้เต็มที่ก่อน จนมันออกมาเป็นเพลงไทเกอร์ส ซึ่งเป็นเพลงที่เริ่มต้นจากความกลัวอะไรหลายๆ อย่างของเรา เลยตั้งชื่อเพลงว่าไทเกอร์ส เราทำเพลงในปีเสือและเราก็เกิดปีเสือ เหมือนเป็นการดึงความเป็นเสือในตัวเองออกมา ปลุกความเป็นเสือของเรา”

ที่มาของวงจังเกิ้ลซิตี้?
ซาร่า – “ตอนแรกซาร่าจะทำโซโล่คนเดียว แต่ด้วยเขาเป็นโปรดิวเซอร์และมาแร็พด้วยก็อยากให้เกียรติเขา ให้เขามาอยู่ในวงด้วย ก็ตั้งชื่อวง จังเกิ้ลซิตี้ เพราะเราจะพรีเซนต์ความเป็นกรุงเทพฯ ที่มีทั้งเมืองและมีทั้งธรรมชาติ เรารู้จักกันที่นี่ ไอเดียต่างๆ ก็เป็นจุดเริ่มต้นของที่นี่”

เจอกันได้อย่างไร?
ซาร่า – “เจอกันโดยบังเอิญในห้าง ในร้าน H&M เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้จักกัน ค่อยๆ พัฒนาการนัดเจอกันแต่ละที่เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กัน ที่แรกที่ร้านอาหารวีแกน ที่สองพิพิธภัณฑ์ ที่สามตลาดเจ ทีแรกเขาไม่รู้หรอกว่าเราเป็นดารา (หัวเราะ) จนมีพี่รปภ.ท่านหนึ่งที่พิพิธภัณฑ์มาขอถ่ายรูป เขาเลยรู้ ทุกอย่างเริ่มต้นแบบเรียล”

ใครเริ่มต้นทักก่อน?
แอช – “ผมครับ เห็นเขาก็อยากเข้าไปคุย ตาเขาสวย ก็ขอไลน์แลกไลน์กัน ความรู้สึกแรกที่เห็นรู้สึกปิ๊ง เหงื่อออกมือ ทุกครั้งที่เหงื่อออกมือ จะมี 2 เหตุการณ์ คือถ้าจะไม่ได้เงินก้อนใหญ่ หรือไม่ก็จะหมายถึงแม่โทร.มา หลังแลกไลน์กันก็ทักไป ใช้เวลากว่า 3 สัปดาห์กว่าเขาจะตอบกลับ”

เรียกว่าพรหมลิขิตได้ไหม?
แอช – “เชื่อแบบนั้น มีหลายๆ อย่างเกิดขึ้น คือรู้สึกว่าเขาหน้าเหมือนคุณยายของแม่ ทำให้นึกถึงครอบครัวที่บ้าน”

อะไรทำให้ซาร่าเปิดใจคุยด้วย?
ซาร่า – “ในข้อความของเขา เราไม่ได้รู้สึกว่าถูกคุกคามใดๆ เหมือนเขาให้ระยะห่าง และตอนนั้นเรายุ่งมาก มีรายการ มาสเตอร์เชฟ ที่ต้องฝึกและเครียดมาก แต่ที่ตัดสินใจคุยก็ด้วยประโยคสุดท้ายของเขาว่า “อาจจะดูแปลกนะ ที่เราถูกให้มาเจอกันในที่สาธารณะ ผมรู้สึกว่าอยากรู้จักใครสักคน คุณรู้สึกแบบนี้ไหม และผมก็โฟกัสความเป็นเพื่อนนะ” เราเลยโอเค ลองคุยดู และตกรอบมาสเตอร์เชฟพอดี (หัวเราะ) และเขานัดเจอที่ร้านอาหารวีแกน ซึ่งเรากินวีแกนมาร่วมปี เลยรู้สึกแปลกใจว่าบางจังหวะมันอย่างนี้ได้ยังไง”

เห็นความน่ารักยังไงของกันและกัน?
ซาร่า – “น่าจะเป็นความเปิดกว้างของเขา โดยเฉพาะวัฒนธรรมไทย เขาชอบเมืองไทยมาก พอเราสอนอะไรเขายอมรับในทุกสถานการณ์ที่เราป้อนข้อมูลให้”

แอช – “เขามีพลังงานมากๆ สนุกสนานร่าเริง และสิ่งที่ชอบของเราทั้งคู่คือการแชร์สิ่งต่างๆ ซึ่งกันและกัน เรียนรู้วัฒนธรรม ต่างคนต่างเติมให้กันในมุมที่พัฒนา มีอะไรมากกว่าลุกส์ที่สวย”

ความรู้สึกตอนที่รู้ว่าซาร่าเป็นคนมีชื่อเสียง?
แอช – “ตื่นเต้น แต่ที่รู้จริงๆ จังๆ เลย จากช่างตัดผม เขาถามผมว่ารู้ไหมนี่ใคร นี่คือซาร่านะ ซุปตาร์เมืองไทย แต่เอาจริงๆ ไม่ได้เซอร์ไพรส์ขนาดนั้น เพราะผมเห็นเขาเป็นยังไงในตอนแรก ก็ยังเห็นว่ายังเป็นแบบนั้นอยู่ คือไม่ได้พอรู้ว่าเป็นดาราแล้วความคิดผมจะเปลี่ยนไป”

ครั้งนี้เป็นความรักที่ลงตัวหลายๆ อย่าง มองแผนอนาคตอย่างไรบ้าง แต่งงานเลยไหม?
แอช – “อู้หู เหงื่อออกมือเลย สงสัยแม่จะโทรมา (หัวเราะ) ตอนนี้โฟกัสที่งานเพลง ใช้เวลาให้ดีในทุกวันก่อน ก็เป็นความสวยงามของอนาคต ตอนนี้มองกันวันต่อวัน วันหนึ่งในอนาคตก็คือวันนี้”

ซาร่า – “ซาร่าก็เหมือนกัน เราทำงานด้วยกัน เป็นเพื่อนเป็นมิตรภาพเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการแชร์ไปด้วยกันได้มากขึ้น โฟกัสที่เหมือนกันคือการทำงานเพลง แล้วทำในแต่ละวันให้ดีที่สุดค่ะ”

พลเทพ สารภิรมย์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน