สร้างความสะเทือนใจให้กับสังคมอย่างยิ่ง สำหรับเหตุเพลิงไหม้ผับดังที่จ.ชลบุรี จนเป็นเหตุย่างสยองนักท่องเที่ยวเสียชีวิตอย่างน้อย 17 ราย และยังมีอาการสาหัสอยู่อีกหลายสิบคน

เพราะความสูญเสียนี้ไม่ใช่ครั้งแรก โดยเคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้มาแล้วเมื่อ 13 ปีก่อนจากกรณีซานติก้าผับ

ซึ่งตอนนั้นทุกฝ่ายก็ตื่นตัว วางมาตรการป้องกัน แก้ไข ไม่ให้เกิดเหตุร้ายในอนาคตอีก

แต่เวลาผ่านไปก็เหมือนไฟไหม้ฟาง ทุกอย่างกลับสู่วังวนเดิมๆ คนที่มีหน้าที่ต้องตรวจสอบดูแลให้เป็นไปตามกฎหมายก็เกียร์ว่าง ปล่อยปละละเลย จนถูกตั้งคำถามว่ามีผลประโยชน์อื่นใดแอบแฝงบังตาไม่ให้การตรวจสอบมีประสิทธิภาพหรือไม่

และในกรณีผับเมาน์เทน บี ที่สัตหีบ ก็ตรงตามกับที่กล่าวมาทั้งหมด จับตรงไหนก็มีปัญหาตรงนั้น

ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างอาคารที่ไม่ตรงตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร เปิดสถานบริการไม่มีใบอนุญาต เปิดเกินเวลา ปล่อยเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ

จนสงสัยว่าอะไรกันที่บังตาเจ้าหน้าที่ไม่ให้มองเห็นสิ่งประหลาดพิกลเช่นนี้

แน่นอนว่าหลังจากเกิดเหตุ ก็มีการย้ายทั้งตำรวจและฝ่ายปกครองออกจากพื้นที่ไป








Advertisement

แต่ก็ต้องสอบถามกันจริงๆ ว่าการลงโทษเท่านี้เหมาะสมกับความ เสียหายที่เกิดขึ้นแล้วหรือไม่

และยังมีใครต้องร่วมรับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าวอีก!!!

อาคารปิดทึบ

ไฟไหม้ผับคร่าแล้ว 17 ศพ

เหตุสลดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 5 ส.ค. ตร.สภ.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้สถานบริการบันเทิงเมาน์เทน บี ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท หมู่ 7 ต.พลูตาหลวง มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารชั้นเดียวในเนื้อที่กว่า 3 ไร่ เพลิงลุกไหม้ตัวอาคารอย่างรุนแรงท่ามกลางความโกลาหลวุ่นวาย นักเที่ยวนับร้อยวิ่งหนีตายออกจากตัวอาคาร บางรายอยู่ในสภาพถูกไฟคลอกทั้งตัวนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด เจ้าหน้าที่และอาสากู้ภัยช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น และรีบนำส่งร.พ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และร.พ.พลูตาหลวง ก.ม.10

ทั้งนี้การควบคุมเพลิงเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากภายในอาคารมีวัสดุติดไฟง่าย โดยเฉพาะน้ำยาโฟมซับเสียง จึงทำให้เพลิงลามไปทั่วตัวอาคาร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมฉีดน้ำนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ พร้อมทั้งกันผู้คนออกจากพื้นที่ เนื่องจากอาคารอาจทรุดตัวลงมา

จากนั้นเจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 13 ราย เป็นผู้หญิง 4 ราย และผู้ชาย 9 ราย นอนตายกองรวมกันบริเวณหน้าประตู 4 ราย ในห้องน้ำชาย 3 ราย หลังบูธดีเจ 1 ราย ในบริเวณแคชเชียร์ 2 ราย และหน้าแคชเชียร์ 3 ราย สภาพศพถูกไฟคลอกไหม้เกรียมทั้งตัว เสียชีวิตสลด

ต่อมามีผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 3 ราย เป็น 17 ราย ทั้งนี้ยังมีบาดเจ็บอีก 42 ราย ในจำนวนนี้ใส่ท่อช่วยหายใจ 15 ราย

ไหม้ผับสยอง

เป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่!!

สำหรับสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่เร่งเก็บหลักฐาน ตรวจสอบทั้งวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งภายใน ฉนวนซับเสียง อุปกรณ์ต่างๆ เวที ฝ้าเพดาน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

ขณะที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าถึงนาทีนรกว่า ระหว่างที่กำลังกินดื่มอยู่ภายในผับ ซึ่งมีการแสดงดนตรีตามปกติ และช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง จากนั้นนักดนตรีก็หยุดเล่น ก่อนจะเกิดไฟลุกและกลุ่มควัน ต้นเพลิงอยู่บนเพดานเหนือเวทีฝั่งซ้าย

จากนั้นก็มีคนตะโกนว่าไฟไหม้ แล้วเกิดไฟลามอย่างรวดเร็ว คาดว่าไฟลุกไหม้ฉนวนโฟมกันเสียงที่ฉีดไว้เต็มพื้นที่ จากนั้นนักท่องเที่ยว พนักงาน กรูกันวิ่งออกจากผับด้านหน้า บางคนวิ่งหนีออกมาไม่ทันก็ถูกไฟคลอก บางคนวิ่งออกมาจากผับได้ในสภาพไฟท่วมตัวก็มี

ขณะที่นักดนตรีเล่าให้ฟังว่าผับดังกล่าวมีประตู 3 ทาง ด้านหน้ามีทางเข้า 2 ชั้น โดยประตูอยู่สลับด้าน ด้านหลังแม้มีประตู แต่ล็อกกุญแจไว้ตลอด เพราะการลักลอบเข้ามาในผับ นอกจากนี้ยังไม่มีทางบอกประตูหนีไฟที่ชัดเจน ไม่มีระบบดับเพลิงตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร

ทำให้ความสูญเสียรุนแรงอย่างที่เห็น!!!

เจ้าของแถลงขอโทษ

เด้งรูดตร.-นอภ.-เสี่ยโต้นอมินี

และแน่นอนเมื่อเกิดความสูญเสียใหญ่ขนาดนี้ การไล่รื้อขยะที่ซุกอยู่ใต้พรมก็ต้องเกิดขึ้น และจากการตรวจสอบพบว่าเป็นสถานบริการที่ไม่มีใบอนุญาต และมีความผิดเกือบทั้งหมด

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ระบุว่า เรื่องผับเมาน์เทน บี เป็นอำนาจท้องถิ่นที่อนุญาต โดยคนที่กำกับท้องถิ่นคือผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งนี้ตรวจสอบพบเป็นการขออนุญาตจดทะเบียนเป็นร้านอาหาร เปิดกิจการเมื่อ 1 มิ.ย. 2565 แต่กลับเปิดเป็นสถานบริการ ขั้นต้นท้องถิ่นต้องรับผิดชอบ ฝ่ายปกครองก็ผิดด้วย

เบื้องต้นสั่งย้าย ว่าที่ พ.ต.ชาติชาย ศรีโพธิ์อ่อน นายอำเภอสัตหีบ มาช่วยราชการที่กรมการปกครอง พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว ซึ่งเจตนากระทำผิดคอร์รัปชั่น มีผลประโยชน์ มีส่วนได้ ส่วนเสีย หรือปล่อยปละละเลยหรือไม่ ถือว่าเข้าข่ายผิดทั้งทางวินัย และอาญา

ขณะที่ พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี มีคำสั่งย้าย 5 เสือสภ.พลูตาหลวง ประกอบด้วย พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ สมใจ ผกก.สภ.พลูตาหลวง พ.ต.ท.สมศักดิ์ รู้ยิ่ง รอง ผกก.ปป.สภ.พลูตาหลวง พ.ต.ท.ต่อวงศ์ ศักดิ์กุลวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.พลูตาหลวง พ.ต.ต.สมญา ชูสุขพลเยี่ยม สารวัตรปราบปราม สภ.พลูตาหลวง พ.ต.ท.ยุทธนา สงกระสันต์ สารวัตรสืบสวน สภ.พลูตาหลวง

รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว

อย่างไรก็ตามสังคมก็ยังเกิดความสงสัยว่าผับดังกล่าวสามารถเปิดบริการได้อย่างสะดวกโยธิน จะเป็นไปได้หรือไม่ที่มีคนมีสีอยู่เบื้องหลัง และใช้ให้นอมินีเป็นเจ้าของแทน

โดย นายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ หรือ เสี่ยบี อายุ 27 ปี ผู้รับเป็นเจ้าของผับ และถูกตั้ง 2 ข้อหา คือ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้รับประกันตัว ก็เปิดแถลงข่าวยืนยันเป็นเจ้าของตัวจริง ไม่มีนายทุนจีน ไม่มีคนมีสี ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง เป็นเพียงวัยรุ่นสร้างตัวที่ทำงานเก็บเงินจากเขียงหมู ร้านก๋วยเตี๋ยว มาเปิดสถานบริการเท่านั้น

ยืนยันพร้อมให้ความร่วมมือกับการตรวจสอบสาเหตุทั้งหมด และจะเยียวยาผู้เสียหายเต็มที่ หลังจากเสร็จเรื่องก็จะบวชอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตทั้งหมด

เป็นการชี้แจงจากเจ้าของผับ ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์

เปลวไฟลุก

ย้อนโศกนาฏกรรมซานติก้าผับ

สำหรับเหตุการณ์ความสูญเสียครั้งนี้ นอกจากความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังเกิดปรากฏการณ์ของสังคมที่เกิดการตั้งคำถามว่าจะต้องเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีกสักกี่ครั้ง เพราะก่อนหน้านี้เมื่อเกิดเหตุสยองที่ซานติก้าผับ ทุกหน่วยงานองคาพยพก็พยายามออกมาถอดบทเรียนแก้ไขปัญหากันอย่างอุตลุด แต่เหตุใดเพียง 10 กว่าปีผ่านไปก็ไม่มีการวางมาตรการใดๆ ที่เป็นรูปธรรม

หรือเป็นเพียงการแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปเท่านั้น

สภาพภายใน

สำหรับเหตุซานติก้า ผับ นั้น เป็นเหตุการณ์ไฟไหม้สถานบันเทิงจนมีผู้เสียชีวิตเกือบ 70 ศพบาดเจ็บอีกนับร้อย เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค.2551 คืนวันฉลองส่งท้ายปีเก่า ที่ซานติก้าผับ สถานบันเทิง ชื่อดังย่านเอกมัย โดยรายงานแจ้งว่าคืนวันเกิดเหตุมีบรรดานักท่องเที่ยวเข้าไปร่วมฉลองเคานต์ดาวน์กว่า 1 พันคน ขณะที่ผับดังกล่าวรองรับลูกค้าได้ประมาณ 500 คนเท่านั้น

โดยสาเหตุเดิมคาดว่าเกิดจากการที่นักท่องเที่ยวจุดพลุกระดาษฉลองในช่วงเคานต์ดาวน์ จนไปติดไฟสปอตไลต์เกิดไฟลุก แต่จากการสอบสวนจนทราบว่าเกิดจากเอฟเฟ็กต์ประกอบการแสดงดนตรีนั่นเอง

เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เนื่องจากไม่สามารถหนีออกจากอาคารที่มีประตูทางออกขนาดเล็ก จนหลายศพเหยียบกันตาย และถูกไฟคลอก

หลังเกิดเหตุมีการออกกฎกระทรวง กำหนดประเภทและระบบความปลอดภัยของอาคารที่ใช้เพื่อประกอบกิจการเป็นสถานบริการ พ.ศ.2555 แบ่งขนาดพื้นที่บริการ 6 ประเภท ตามขนาดพื้นที่และลักษณะอาคารเดี่ยว หรือสถานบริการหลายประเทศรวมกัน กำหนดตำแหน่งบันไดหนีไฟอย่างน้อย 2 ทาง รวมถึงทางออก และประตูทางออก ที่สอดคล้องกับจำนวนคนสูงสุดที่อยู่ในพื้นที่บริการ มีการกำหนดโครงสร้างหลัก โครงสร้างหลังคาที่ต้องมีอัตราทนไฟ รวมทั้งมีอุปกรณ์ป้องกันไฟไหม้ เครื่องดับเพลิงแบบมือถือ หรือหัวจ่าย น้ำดับเพลิง ตามขนาดสถานบริการ

เป็นกฎหมายที่ออกมาเพื่อล้อมคอก น่าเสียดายที่ไม่ได้รับการปฏิบัติจริง

จนเกิดเหตุสลดขึ้นซ้ำอีก!!!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน