ตลาดรถยนต์ครอสโอเวอร์แบบ 7 ที่นั่ง ในปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเซ็กเมนต์ที่แข่งขันกันดุเดือดชนิดปรอทแตกกันเลยทีเดียว ด้วยเพราะไม่ว่าจะพี่ใหญ่ น้องรอง ต่างพร้อมใจกันเปิดตัวรุ่นใหม่ ในเวลาไล่เลี่ยกัน

แต่ถึงกระนั้นค่ายที่ทำตลาดอยู่เดิม หาได้หวาดหวั่นไม่ ขยับตัวโหมโรงพร้อมรับน้องกันทุกค่าย อย่างค่ายซูซูกิ ที่มีซูซูกิ XL7 เป็นพระเอก และขวัญใจนักเลงรถครอสโอเวอร์เมืองไทยอยู่ไม่น้อย

จัดแจงแต่งหน้าทาปาก พร้อมเพิ่มลูกเล่น ที่อำนวยความสะดวก กับจุดชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ตามสมัยนิยมสมาร์ตโฟนรุ่นปัจจุบัน ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะลืมสายชาร์จ หรือมีสายเกะกะระโยงระยาง

และกล้องบันทึกด้านหน้ารถ ติดตั้งจากโรงงาน เก็บสายเป็นระเบียบเรียบร้อย แถมไม่ต้องมาเสียบต่อกับที่จุดบุหรี่ เหมือนกับซื้อมาติดตั้งเอง

ที่สำคัญเชื่อมต่อกับหน้าจอสัมผัสขนาด 10 นิ้ว เห็นภาพขณะบันทึกชัดเจน และยังทำให้เลือกฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย

ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าบันทึก หรือไม่บันทึกเสียงขณะอัดวิดีโอ หรือเลือกดูภาพย้อนหลัง ไม่ต้องเพ่งดูกับหน้าจอขนาดเล็ก ที่ติดมากับกล้องติดหน้ารถ

และเพื่อให้เห็นถึงความสะดวกในการ ใช้งานฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้นใหม่ พร้อมทั้งพิสูจน์สมรรถนะกันจะจะ ว่าเจ้าซูซูกิ XL7 คันนี้ ขึ้นเขาลงห้วยได้อย่างสบายๆ สไตล์ ครอสโอเวอร์อย่างแท้จริง

จากเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด กันที่ดอยช้าง จ.เชียงราย

นำโดยผู้บริหารมาดอบอุ่น วัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย พร้อมทีมงานการตลาด และประชาสัมพันธ์

ดอยช้างเป็นพื้นที่ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,962 เมตร เส้นทางนอกจากต้องไต่ความชันแล้ว ยังคดโค้งต่อเนื่อง ถือได้ว่าเป็นเส้นทางที่เหมาะกับการทดสอบ ทั้งกำลังของเครื่องยนต์ สมรรถนะช่วงล่าง รวมถึงพวงมาลัย

ระยะทางอาจจะไม่ได้มากนัก ขับกันคนละประมาณ 120 ก.ม. แต่ทุกคนได้สัมผัสกันอย่างครบรส “ข่าวสด ยานยนต์” อาสาทดสอบเป็นคนแรก

กำลังของเครื่องยนต์บนทางเรียบ เดินทางกันได้สบายๆ ทั้งจังหวะออกตัว และทำความเร็วปลาย ส่วนช่วยเร่งแซง คิกดาวน์ที่แป้นคันเร่งเบาๆ ก็เรียกกำลังมาใช้งานได้ในทันที

ขณะที่ทางขึ้นเขา ถึงจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แต่ก็สามารถพิชิตแต่ละเนินได้อย่างต่อเนื่อง จะมีบางครั้งเจอกับทั้งโค้ง ทั้งชัน ที่ต้องใช้กำลังมาก กดปุ่มโอเวอร์ไดรฟ์ที่หัวเกียร์ เท่านี้ตัวรถก็พุ่งทะยานผ่านได้ฉลุย

พวงมาลัยที่คมกริบ เพิ่มความมั่นใจในการควบคุมตัวรถ ให้ไปในทิศทางที่ต้องการได้อย่างใจ ไม่ว่าจะเจอโค้งแบบไหน โค้งลึก โค้งหักศอก โค้งรูปตัวเอส ทำได้อย่างสบายมือ

ไหนๆ เกิดมาเป็นรถครอสโอเวอร์ทั้งที ทีมงานเลยให้ขับลุยผ่านน้ำ ที่ฝายน้ำล้นห้วยเสี้ยน แน่นอนว่าขับผ่านไปได้อย่างไร้กังวล ด้วยความสูงใต้ท้องรถ 200 ม.ม.

ขากลับทีแรกว่าจะไปนั่งเบาะแถวสาม แต่คะเนด้วยสายตาว่า น่าจะเหมาะกับเด็กๆ หรือสาวเอวบางร่างน้อย อีกทั้งสภาพถนนที่ต้องเจอแล้ว ตัดสินใจนั่งที่เบาะแถวสองน่าจะดีกว่า

พื้นที่เหนือศีรษะ พื้นที่วางขามีมาให้มากพอ ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด แอร์ติดตั้งอยู่ที่เพดาน มาพร้อมปุ่มปรับความแรงลม ทำให้เย็นทั่วถึงทั้งแถวสอง และแถวสาม

ตำแหน่งเบาะนั่งสูง ช่วยให้มองออกไปด้านนอกได้กว้างไกล และทำให้เข่าไม่ชัน แต่ถ้าเพิ่มความหนาของเบาะนั่ง ให้รองรับต้นขาด้วยจะดีมาก เพราะจุดนี้ช่วยลดความเมื่อยล้า ยามเดินทางไกลได้เป็นอย่างดี

แรงเหวี่ยงระหว่างเข้าโค้ง ที่เบาะแถวสอง มีให้ได้รู้สึกอยู่บ้าง แต่ไม่ได้ถึงกับน่าหวาดหวั่นแต่อย่างใด

ดีไซน์ภายนอก ดูผาดๆ เหมือนไม่ได้เปลี่ยนอะไร เท่แบบเดิมๆ เพิ่มเติมคือมีทางเลือกสีทูโทนหลังคาสีดำ เติมเต็มอารมณ์สปอร์ต

สนนราคาเริ่มต้นที่ 814,000 บาท ส่วนสีทูโทน เริ่มต้นที่ 824,000 บาท แวะไปสัมผัส พร้อมทดลองขับได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน