กทม.2ดินแดง – เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่อาคารไอราวัตพัฒนา นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์การจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 2 แบริ่ง-สมุทรปราการ และหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ว่า การพิจารณาอัตรา ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะต้องเข้าที่ประชุม สภากรุงเทพมหานคร เนื่องจากเกี่ยวข้องกับงบประมาณ ของกทม.และเงินสนับสนุน เพราะมีการขาดทุนจากการจ้างเดินรถ จึงอยากขอความเห็นจากสภา กทม.อย่าง เป็นทางการ แต่หากสภา กทม.ยังไม่นำการพิจารณาอัตรา ค่าโดยสารเข้าสู่วาระการประชุมสภากทม. ฝ่ายบริหาร จะออกประกาศจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ในอัตรา 15 บาทตลอดสายเฉพาะในส่วนต่อขยาย 2 ซึ่งจะประกาศให้ประชาชนรับทราบก่อน 30 วัน
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายบริหารได้ส่งข้อมูล ทั้งบันทึก ข้อตกลง เอกสารสัญญาสัมปทาน และหนังสือ ขอความเห็นจากกระทรวงมหาดไทย (มท.) ให้สภา กทม.ประกอบการพิจารณาไปแล้วและเพิ่งถึงสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) เมื่อวันที่ 18 ต.ค.
ขณะที่นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธาน สภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การพิจารณาอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ยึดตามมติสภา กทม.ชุดก่อน ที่ระบุให้ฝ่ายบริหารมีอำนาจพิจารณากำหนดอัตรา ค่าโดยสาร และเสนอ 3 แนวทาง ได้แก่ 1.การใช้ พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 2.ให้ดำเนินการลักษณะสัมปทาน และ 3.ส่งคืนโครงการให้แก่รัฐบาล
ด้านน.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทางบริหารจัดการโรงฆ่าสัตว์กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 3 โดย ที่ประชุมมีความเห็นว่า จากข้อมูลที่ กทม. มีทั้งหมด รวมทั้งความเห็นจากสถาบันการศึกษา กรมปศุสัตว์ ผู้ประกอบการและสมาคมที่เกี่ยวข้องกับโรงฆ่าสัตว์ เป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า การที่ภาครัฐลงทุนเองนั้นไม่เกิดความคุ้มค่า จึงขอให้สอบถามไปยังบริษัท ที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องว่า หากให้มีการลงทุนโดย ภาคเอกชนในรูปแบบความร่วมมือหรือดำเนินการทั้งหมดจะมีความสนใจมากน้อยแค่ไหน โดยให้ทางสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล ดำเนินการศึกษา รูปแบบ รวมถึงการดำเนินการกรณีไม่มีผู้สนใจด้วย
