‘ชอลซ์’ขอ‘สี’กดดัน‘ปูติน’ยุติสงคราม – วันที่ 5 พ.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความ คืบหน้าการเยือนประเทศจีนของนายโอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เพื่อหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีน นับเป็นผู้นำคนแรกของกลุ่มจี 7 ที่เยือนจีนตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 เมื่อวันศุกร์ที่ 4 พ.ย. ว่า นายชอลซ์เรียกร้องให้นายสีใช้อิทธิพลของจีนกดดัน ให้รัสเซียยุติการทำสงครามในยูเครน

“ผมแจ้งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ว่านี่เป็นสิ่งสำคัญที่จีน จะต้องใช้อิทธิพลกดดันรัสเซีย รัสเซียจะต้องยุติการโจมตีที่เกิดความเสียหายต่อประชาชนและออกจากยูเครน” นายชอลซ์กล่าว

ขณะที่นายสีกล่าวว่า นานาประเทศควรร่วมกันคัดค้านการใช้อาวุธนิวเคลียร์ หรือการข่มขู่การใช้อาวุธนิวเคลียร์ “จะต้องไม่มีการใช้อาวุธนิวเคลียร์หรือสงครามนิวเคลียร์ เพื่อให้เราสามารถป้องกันวิกฤตนิวเคลียร์ในยุโรปหรือเอเชียได้” นับเป็นคำเตือนอย่างโจ่งแจ้งถึงนายปูติน ซึ่งเคยขู่ว่ารัสเซียพร้อมใช้อาวุธนิวเคลียร์หากจำเป็น เพื่อปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดน

วันเดียวกัน บีบีซีรายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ดำเนินการแก้ไขกฎหมายระดมพลทหารกองหนุน อนุญาตให้อดีตนักโทษคดีร้ายแรง เช่น ฆาตกรรมหรือยาเสพติด ที่เพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำ ถูกเกณฑ์เป็นทหารเพื่อร่วมรบในยูเครน แต่ยังยกเว้น อดีตนักโทษในคดีอาชญากรรมทางเพศต่อเด็กและเยาวชน รวมถึงคดีการก่อการร้าย

สำหรับสถานการณ์สงคราม กองทัพยูเครนยังรุกคืบและยึดคืนพื้นที่จากกองทัพรัสเซียมีรายงานว่า ทหารรัสเซีย ออกไปจากเมืองเคียร์ซอน ทางใต้ของยูเครน เมืองใหญ่แห่งแรกที่รัสเซียยึดครองได้และเป็น 1 ใน 4 แคว้น ที่รัสเซียผนวกไป นับเป็นการล่าถอยครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่สงคราม ขณะที่นายปูตินสนับสนุนการอพยพพลเรือนออกจากพื้นที่สู้รบในเมืองดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน