คนแห่สมัครงานเป็นพัน ‘เหมืองทองอัครา’ ลั่นลงทุนในไทยต่อเนื่อง เตรียมความพร้อมเดินเครื่องผลิต ส่วนข้อพิพาทระหว่าง รัฐบาลไทยกับคิงส์เกตคาดได้ข้อยุติภายในสิ้นปีนี้

นายวรงค์ สราญฤทธิชัย ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายบริหารองค์กร บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการกลับมา ผลิตทองคำของเหมืองทองอัครา จ.เพชรบูรณ์ และจ.พิจิตร ภายหลังรัฐบาลต่ออายุประทานบัตร ต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรม และออกอาชญาบัตรพิเศษเพื่อการสำรวจแร่ทองคำ ว่า บริษัทพร้อมลงทุน ในประเทศไทยต่อเนื่อง โดยล่าสุดเตรียมเงินทุนเบื้องต้น 500 ล้านบาท สำหรับซ่อมแซมเครื่องจักรและโรงประกอบโลหกรรมครั้งใหญ่ รวมถึงอาคารสถานที่สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในเหมือง ซึ่งปัจจุบันดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว 75% ตามแผนงานที่วางไว้ คาดว่าการดำเนินงานทั้งหมดจะแล้วเสร็จช่วงสิ้นปีนี้

โดยตามขั้นตอนก่อนเปิดทำเหมือง บริษัทต้องทำหนังสือแจ้งให้หน่วยงานรัฐที่เป็นผู้กำกับดูแลทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งหลังจากได้รับอนุญาตแล้วจึงจะสามารถเริ่มดําเนินการทําเหมืองได้ พร้อมกับบริษัทต้องวางหลักประกัน การฟื้นฟูการทำเหมือง และจัดทำประกันภัยความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ตามที่กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและ การเหมืองแร่ (กพร.) กำหนดหลักเกณฑ์ในการบริหารจัดการกองทุน

“เพื่อเตรียมความพร้อมในการกลับมาเปิดดำเนินกิจการ บริษัท จึงเริ่มทยอยรับสมัครพนักงานเบื้องต้นประมาณ 160 อัตรา รองรับแผนการดำเนินงานระยะแรก ซึ่งจะใช้โรงประกอบโลหกรรมที่ 2 เพียงโรงเดียวเท่านั้น กำลังการผลิต 2.7 ล้านตันต่อปี ซึ่งภายหลังที่บริษัทกลับมาดำเนินการไปแล้วสักระยะหนึ่งจึงจะเริ่มซ่อมโรงประกอบ โลหกรรมที่ 1 ที่มีกำลังการผลิต 2.3 ล้านตันต่อปี และเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจนสามารถกลับมาใช้งานได้แล้ว บริษัทจะรับพนักงานเพิ่ม รองรับปริมาณงานที่มากขึ้นต่อไป โดยรวมแล้วจะก่อให้เกิดการจ้างงานทั้งโดยตรงและผ่านผู้รับเหมาประมาณ 1,000 อัตรา” นายวรงค์กล่าว

ทั้งนี้ หลังจากที่บริษัทได้ประกาศรับสมัครพนักงาน ปรากฏว่า ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม มีประชาชนมาดาวน์โหลดและ รับใบสมัครแล้วกว่า 1,000 ราย โดยผู้ที่มีคุณสมบัติที่บริษัทต้องการและภูมิลำเนาในพื้นที่จะได้รับการพิจารณาเป็นอันดับแรก เพราะเป็นนโยบายที่มีมาตั้งแต่ต้น บนความตั้งใจที่จะเติบโตไปพร้อมกันกับชุมชนอย่างยั่งยืน และเชื่อว่าบริษัทจะเป็นส่วนสำคัญในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ ช่วยสร้าง เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยปีละกว่า 3,000 ล้านบาท ผ่านการสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจในประเทศ การชำระค่า ภาคหลวงและภาษี และการสร้างงาน

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลไทยกับ บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด บริษัทแม่ของบริษัทอัคราฯ นั้น เบื้องต้น กพร. กระทรวงอุตสาหกรรมประเมินว่าจะได้ข้อยุติภายในสิ้นปีนี้ หลังคณะอนุญาโตตุลาการได้เลื่อนการออกคำชี้ขาด (คำตัดสิน) ไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2565

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน