เมื่อวันที่ 15 พ.ย. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ จะขอพบเพื่อหารือถึงการเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า ยินดี แต่ขอให้เสร็จการประชุมเอเปคก่อน ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นพ.ระวีเดินสายหารือกับกลุ่มต่างๆ จะทำให้เรื่องนี้เป็นไปได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องฟังที่เขาพูดก่อน เพราะยังไม่รู้ความคิดคืออะไร ทำไปขนาดไหน ต้นซอย กลางซอย สุดซอย หรือเลยซอย
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นปลายรัฐบาลแล้ว หากมีการวิจารณ์กันอาจทำให้ เสียความรู้สึกต่อผู้คนในสังคม หรือเกิดการแตกแยกกัน เรื่องนี้มีทั้งลบและบวก ต้องดูให้ละเอียดรอบคอบ
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า ตนพร้อมสนับสนุน นพ.ระวี แต่ต้องพิจารณาเนื้อหาให้ครอบคลุม 4 กรณี คือ 1.คดีทุจริตที่มีผลสืบเนื่องมาจากการยึดอำนาจ ซึ่งจำเลย เช่น นายทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกตัดสินเพียง ฝ่ายเดียว หากร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมบัญญัติเนื้อหาให้ใช้กระบวนการรื้อฟื้นคดีตาม พ.ร.บ.รื้อฟื้นคดีอาญาพ.ศ.2526 เชื่อว่าจะทำให้สังคมยอมรับ เกิดความปรองดอง เพราะให้สิทธิฝ่ายจำเลยสู้ตามกระบวนการยุติธรรมปกติ
2.คดีกบฏ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 เพื่อนิรโทษกรรมกลุ่มคมช. 3.คดีการยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมือง ที่มีเหตุจูงใจจากการเอาชนะคะคาน เช่น กลุ่มของพรรคก้าวไกล เพื่อคืนสิทธิให้ 4.คดีมาตรา 112 กรณีดังกล่าวไม่ใช่การยกเลิก แต่ต้องมีเงื่อนไข คือ การปรับความเข้าใจ รับสารภาพ และมีเงื่อนไขไม่ทำอีก
ก่อนหน้านี้ตนได้คุยกับนพ.ระวี แต่ยังไม่ลงนาม จึงจะคุยกันอีกครั้งถึงเนื้อหาที่ให้เพิ่มเติม หากเอาด้วยเชื่อว่าทุกพรรคจะร่วมลงชื่อด้วยจำนวนมาก แต่หากเดินหน้าด้วยกันไม่ได้ ตนจะนำทีมยกร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเพื่อให้ ทุกพรรคมีส่วนร่วม
