นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (อัตราเงินเฟ้อ) เดือนพ.ย. 2565 มีค่าเท่ากับ 107.92 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 102.25 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 5.55% สูงขึ้นในอัตราที่ชะลอลงเป็นเดือนที่ 3 จากเดือนก.ย. อยู่ที่ 6.41% และเดือนต.ค. อยู่ที่ 5.98%

เนื่องจากหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์สูงขึ้น 8.40% แต่ชะลอลงจากเดือนก่อนที่สูงขึ้น 9.58% รวมถึงราคาผักสดที่ลดลงค่อนข้างมาก คือ ผักกาดขาว ผักคะน้า ขึ้นฉ่าย ฟักทอง เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ประกอบกับมีการขยายพื้นที่เพาะปลูก ทำให้ปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดมากกว่าปีก่อน

“แนวโน้มเงินเฟ้อเดือนธ.ค. ใกล้เคียงกับเดือนก่อน เพราะราคาน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม สินค้ากลุ่มอาหาร ไข่และผลิตภัณฑ์นม อาหารสำเร็จรูป และค่าโดยสารสาธารณะ ยังสูงกว่าปีก่อน รวมทั้งอุปสงค์ในประเทศเริ่มปรับตัวดีขึ้น ขณะที่มาตรการดูแล ค่าครองชีพของภาครัฐ การแข็งค่าของเงินบาท และการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่อาจลดทอนเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือได้ ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปี 2565 จะอยู่ในเป้าหมายระหว่าง 5.5-6.5% สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน