เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เดินทางไปร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมว่า แม้การประชุมครั้งนี้ไทยได้ลงนามในกรอบความตกลงความเป็นหุ้นส่วน และความร่วมมือรอบด้านระหว่างสหภาพยุโรปและรัฐสมาชิกกับราชอาณาจักรไทย (Thai-EU PCA) ซึ่งอ้างว่าจะเป็นพื้นฐานที่นำไปสู่การจัดทำ FTA ไทย-สหภาพยุโรป แต่ข้อเท็จจริงคือหากประเทศไทยยังบริหารโดยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ การเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป ไม่มีทางสำเร็จได้อย่างที่กล่าวอ้างแน่นอน

น.ส.จิราพรกล่าวต่อว่า ไทยเริ่มเจรจาจัดทำ FTA ไทย-สหภาพยุโรป ในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่สหภาพยุโรปขอระงับการเจรจาในปี 2557 เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ทำรัฐประหาร ส่งผลให้ไทยเสียโอกาสมหาศาล แม้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์จะใช้รัฐธรรมนูญปี 2560 สืบทอดอำนาจผ่านการเลือกตั้ง แต่ได้พิสูจน์ความด้อยประสิทธิภาพของพล.อ.ประยุทธ์ชัดเจนแล้ว เพราะหลังเลือกตั้งผ่านไปเกือบ 4 ปี ก็ยังไม่สามารถผลักดัน การเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรปให้เกิดขึ้นได้

“การลงนามกรอบข้อตกลง PCA ไม่ใช่เครื่อง ยืนยันว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์จะผลักดันให้เกิด FTA ไทย-สหภาพยุโรปได้สำเร็จ เพราะวันนี้พิสูจน์แล้วว่า มือไม่ถึงในเรื่องการค้าระหว่างประเทศ ตั้งแต่แถลงนโยบายในปี 2562 ผ่านมาเกือบ 4 ปี ยังไม่สามารถรื้อฟื้นการเจรจากับสหภาพยุโรปที่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ริเริ่มไว้ได้ การทำรัฐประหารของพล.อ.ประยุทธ์ทำให้ไทยเสียโอกาสมหาศาลในการแสวงหาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในเวทีโลก ต้นทุนที่ประเทศต้องจ่ายให้กับความไร้ประสิทธิภาพของพล.อ.ประยุทธ์ สูงเกินกว่าที่จะประเมินได้ จึงควรถอยให้รัฐบาลที่มีฝีมือเข้ามา บริหารประเทศแทน” น.ส.จิราพรกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน