วันพุธที่ 4 ม.ค.2565 น้อมรำลึกครบรอบ 46 ปี มรณกาล “หลวงปู่ฝั้น อาจาโร” วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร พระวิปัส สนาจารย์ ผู้เปี่ยมเมตตา ตามรอยบูรพาจารย์

มีนามเดิม ฝั้น สุวรรณรงค์ เกิดวันที่ 20 ส.ค.2442 ที่ ต.พรรณานิคม อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

เบื้องต้นเริ่มศึกษาที่วัดโพธิชัย บ้านม่วงไข่ มีครูหุ่น ไชยชมภู และพระอาจารย์ต้น วุฒิสาร เป็นผู้สอน หลังเรียนจบมีความตั้งใจที่จะเข้ารับราชการ จึงไปอยู่กับนายเขียน อุปพงศ์ พี่เขย ผู้เป็นปลัดขวาอยู่ที่เมืองขอนแก่น ฝึกเป็นเสมียนอำเภอ

ครั้งนั้นได้เห็นเหตุการณ์สับสนวุ่นวายของข้าราชการและบ้านเมือง เห็นการปราบปรามผู้ร้าย การฆ่าฟัน นักโทษถูกประหารชีวิต

ภาพเหล่านั้นติดตาตรึงใจตลอดมา จนเกิดความรู้สึกปลง มองเห็นความเป็นอนิจจังของชีวิตทางโลก

ทำให้ตัดสินใจไม่รับราชการ หันหน้าเข้าวัดทันที

บรรพชาที่วัดโพนทอง ถัดมาอีกหนึ่งปี อุปสมบทที่วัดสิทธิบังคม ต.บ้านไร่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร มีพระครูป้อง (ป้อง นนตะเสน) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์นวล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์สังข์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังปรนนิบัติรับใช้พระอุปัชฌาย์แล้ว ไปฝึกอบรมทางปฏิบัติ กัมมัฏฐานกับพระครูสกลสมณกิจ เจ้าคณะจังหวัดสกลนคร หรือ “ท่านอาญาครูธรรม” ที่วัดโพนทอง

ปลายปี พ.ศ.2462 มีโอกาสพบพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซึ่งจาริกไปแสดงธรรมและเข้าพักปักกลดอยู่ในป่าช้าใกล้บ้านม่วงไข่

ด้วยใจเลื่อมใสศรัทธา ชวนพระอาญาครูดี และพระภิกษุกู่ ธัมมทินโน ออกไปฟังธรรมเทศนา อบรมธรรมปฏิบัติจากพระอาจารย์ใหญ่

ธรรมเทศนาของพระอาจารย์มั่น ปลุกให้ท่านและสหธรรมิกทั้งสองมีจิตศรัทธาแรงกล้า จนถวายตัวเป็นศิษย์และออกธุดงค์ติดตามพระอาจารย์มั่นไป และได้พบหลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ จึงได้ศึกษาวิธีฝึกจิตภาวนาเบื้องต้น

จากนั้นเดินทางไปกราบนมัสการพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล และพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาโม ก่อนกลับมาหาพระอาจารย์มั่น

พระอาจารย์มั่น ชี้ทางปฏิบัติให้เป็นผู้ตั้งใจ ปรารถนาความเพียรแรงกล้าเด็ดเดี่ยว ไปลำพังรูปเดียว อย่าได้คลุกคลี ให้ยินดีต่อความสงบ อย่ามักมาก ยินดีในความมักน้อย เป็นผู้ยินดีในความสันโดษ

ต่อมาธุดงค์ไปตามป่าเขาโดยลำพัง ครั้นธุดงค์ถึงวาริชภูมิ บ้านหนองแส ท่านอาพาธเป็นไข้หวัดใหญ่ อาการหนักมาก จึงออกเดินธุดงค์ต่อทั้งๆ ที่ยังไม่ทุเลา จึงได้คิดภาวนาจนบำบัดไข้ด้วยธรรมโอสถหลังหายแล้ว เปลี่ยนญัตติเป็นคณะธรรมยุต มีพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์รถ เป็น พระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มุก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ณ วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี

ช่วงระหว่างปี พ.ศ.2497-2505 ไปจำพรรษาอยู่ที่ถ้ำขาม ซึ่งชอบมากที่สุด เพราะสบายแก่การประพฤติพรหมจรรย์

เป็นที่รักของพระเถระผู้ใหญ่ครูบาอาจารย์อย่างมาก เนื่องจากอ่อนน้อมถ่อมตน กายวาจาใจบริสุทธิ์ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย และมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด

ขณะเดียวกันท่านจาริกไปตามสถานที่ต่างๆ ได้สร้างวัด สร้างกุศลคุณงามความดีให้กับทุกพื้นที่ เมตตาบารมีธรรมแผ่ไพศาล

วัตรปฏิบัติหลวงปู่ฝั้น เคร่งครัดไม่ต่างจากพระอาจารย์มั่นผู้เป็นอาจารย์ใหญ่ เคร่งครัดสมฐานะของพระป่ากัมมัฏฐานที่ดำรงตนอยู่ด้วยความสันโดษเรียบง่าย

พระภิกษุ-สามเณรที่อยู่ด้วย ต้องปฏิบัติให้เคร่งครัดเหมือนกัน ไม่ว่าจะในเรื่องการเจริญสมาธิ ฉันหนเดียว ปัดกวาดบริเวณ เดินจงกรม การอยู่ถ้ำอยู่ป่า

ลูกศิษย์ลูกหาต่างหวั่นเกรงในความเคร่งในพาระธรรมวินัย โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ใคร่เอาจริงเอาจังในการปฏิบัติ พวกประพฤติตนเป็นคนเหลวไหล ไร้สาระ ท่านจะขับไล่อย่างไม่เกรงใจ ไม่มีการพะเน้าพะนอ

เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ได้ประพฤติธรรมอย่างเต็มที่

วันที่ 4 ม.ค.2520 มรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 78 ปี พรรษา 58

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน