เปิดศักราชใหม่กับเรื่องราวดีๆ ของหนุ่ม ‘โตโน่’ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ผู้ที่มีกระแสข้ามปี ทั้งจากว่ายน้ำข้ามโขงกับ “โครงการ One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้” รวมถึงท่าเต้นที่กลายเป็นไวรัล

วันนี้จังหวะดีได้พูดคุยกับหนุ่มโตโน่ถึงเรื่องราวดังกล่าว รวมถึงการวางเป้าหมาย ในปีนี้ และเรื่องหัวใจกับแฟนสาว ‘ณิชา’ ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์

◆ ปีที่แล้วเป็นปีที่ได้ทำหลายๆ อย่างตามเป้าที่ตั้งไว้ไหม?
โตโน่ – “ตรงตามที่อยากทำหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นละคร ภาพยนตร์ และเรื่องการ ว่ายน้ำ จริงๆ เกินที่คิดไว้หมดเลย อย่างละคร วิวาห์ฟ้าแลบ ไม่คิดว่าคนจะชอบเยอะ หลังจบละครก็ถ่ายภาพยนตร์ ขุนพันธ์ 3 ซึ่งหนักมาก ทุกๆ นาทีทุกซีนที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงทุกท่าน ผมรู้สึกว่าเรากำลังทำในสิ่งที่คุ้มกับค่าตั๋วของคนดู”

“แล้วก็โครงการ ‘One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้’ โครงการนี้เราทราบเรื่องจากที่มีคนมาบอก เป็นความบังเอิญที่ผมไปเล่นคอนเสิร์ตที่นครพนม ได้ไปลานพญาศรีสัตตนาคราช เลยได้เจอ กับทางคุณหมอ เขาได้เล่าให้ฟัง เรารู้เรื่อง ก่อนต.ค.2565 ประมาณ 3-4 เดือน ทำให้ โปรเจ็กต์นี้งอกขึ้นมา จริงๆ ช่วงต.ค. เป็นช่วงที่ผมได้พัก แต่พอทราบเรื่องก็เลยยินดี จะเอาเวลาพักของเราไปทำกิจกรรมนั้น อะไรที่เราพอช่วยแบ่งเบาได้ ผมก็อยากทำ ก่อนที่จะหมดเวลาของผม”

◆ ทำเรื่องราวดีๆ มีคนชื่นชม แต่ก็ยังมีดราม่ามากมายเกี่ยวกับเรื่องการว่ายน้ำครั้งนี้ของเรา กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เราก้าวผ่านมาได้ยังไง?
โตโน่ – “ตัวผมเองผมรู้ว่าผมทำเพื่อใคร ผมยังจำแววตาของคุณหมอคุณพยาบาลที่อยากได้เครื่องมือแพทย์เอามาช่วยชีวิตพี่น้องของเรา ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่าจะหาเงินได้กี่บาท แต่ผมรู้ว่าผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขอแค่ให้ผมได้ลงมือทำ”

“คนพูดมีเยอะแล้ว คนพิมพ์มีเยอะแล้ว ไม่มีคนทำ ก็คิดแค่นั้นว่าผมจะทำ เรารู้ว่า เป้าหมายที่เราทำคืออะไร แล้วพวกเขามีค่าไหม เห็นแล้วพวกเขามีค่ามากกว่าเวลาพักของผม ส่วนเรื่องที่ใครจะมองยังไง พิมพ์ ยังไง มันเรื่องของเขา”








Advertisement

◆ เรายังมีโครงการอะไรอีกบ้าง?
โตโน่ – “จริงๆ ผมทำโครงการเก็บรักษ์มาตลอด ทำเรื่องสิ่งแวดล้อมมาตลอด ทำทุกเดือน เราทำกันมานาน เป็นสิ่งที่ผมและเพื่อนๆ ทำกันไหว คืออย่างร.พ.มันใหญ่เกินไป เครื่องมือแพทย์แต่ละอย่างมันหลายบาท แต่โครงการเก็บรักษ์ เราแค่ช่วยกันออกค่าตั๋วเครื่องบิน ผมเล่นคอนเสิร์ตได้ตังค์มาส่วนหนึ่งก็หักมาเพื่อเก็บไว้ให้น้องๆ แล้วก็มีเพื่อนๆ ที่ทำธุรกิจต่างๆ เข้ามาช่วยกัน”

◆ คิดว่าตัวเราเป็นสะพานบุญไหม?
โตโน่ – “ผมคิดว่าผมแค่เป็นตัวเชื่อมเล็กๆ แค่มาบอกข่าวกับเพื่อนๆ ว่าตอนนี้เราอยู่ในประเทศที่ติด 1 ใน 10 ประเทศที่ทิ้งขยะพลาสติกลงทะเลมากที่สุดในโลก เราจะทำยังไง จาก 1 ใน 10 ที่แย่ มาเป็น 1 ใน 10 ที่ดีกันเถอะ แล้วการที่จะไปอย่างนั้นเราต้องไปอย่างไร แค่พูดมันไม่มีอะไรดีขึ้น มันต้องช่วยกันลงมือทำ เราแค่แจ้งข่าว ส่วนพวกเราจะช่วยกันไหมก็เป็นเรื่องของแต่ละคนแล้วว่าเห็นความสำคัญตรงนี้แค่ไหน”

◆ ปีนี้วางแผนอะไรไว้บ้าง?
โตโน่ – “อย่างแรก ต้นปีคือบวชให้กับทุกๆ คน ผมไม่รู้จะตอบแทนทุกบาททุกสตางค์ของทุกคนอย่างไร ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่เป็นเรื่องความรัก ความสามัคคี ความมีน้ำใจ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ที่ทุกคนมีให้ทั้งคนไทยและลาว เป็นสิ่งที่ดีงามมาก ภาพเมื่อวันที่ 22 ต.ค.2565 มีเงินเท่าไหร่ก็ซื้อไม่ได้ ผมเลยขอตอบแทนด้วยการบวช แล้วสิ่งที่ชาวไทยชาวลาวเชื่อด้วย อย่างองค์พ่อพญานาค ตัวผมเองก็อยากบวชให้ท่าน ด้วยครับ”

“อย่างที่ 2 โฟกัสหนัง ขุนพันธ์ 3 เพราะหนักมาก เป็นโปรเจ็กต์ที่ใหญ่มากและทุกคนรักมาก เราเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องปิดตำนาน เป็นภาคสุดท้าย พยายามทำให้ดีที่สุด ตอนนี้ผมโฟกัสแค่นี้ก่อน แล้วก็เรื่องเพลงและทัวร์คอนเสิร์ตกับวง งานแสดงยังไม่รับ คือผมเลือกบทที่แตกต่างและต้องให้อะไรกับคนดูด้วย”

◆ อยู่วงการบันเทิงมากี่ปีแล้ว และชีวิตเปลี่ยนไปเยอะไหม?
โตโน่ – “ผมประกวดเดอะสตาร์ตอนอายุ 23 ตอนนี้ 36 อยู่ในวงการมา 13 ปีครับ ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะ แต่มีความสุขเหมือนเดิม ผมมีความสุขกับ ทุกช่วงชีวิต มีความสุขกับเพื่อน ไม่ว่าเพื่อนจะรวย จน มีชื่อเสียง ผมก็รักพวกเขาเหมือนเดิม การใช้ชีวิตผมก็ยังเหมือนเดิม เมื่อก่อนผมไม่มีตังค์ซื้อรถยนต์ขับ ผมชอบจักรยานโบราณ ผมก็เก็บตังค์ซื้อจักรยานโบราณ มาปั่นไปโรงเรียน พอโตขึ้นมาผมก็ยังชอบของเก่าเหมือนเดิม พอผมมีตังค์ ผมก็ซื้อรถเก๋งเก่า แล้วผมเป็นคนชอบอะไรอย่างเดียว อย่างเช่นจักรยานก็จะหาคันที่ผมชอบที่สุด มอเตอร์ไซค์ หรือรถยนต์ บ้านก็เหมือนกัน ผมรู้สึกว่าเราไม่ต้องอยากมีเยอะ แค่รักมัน อยากใช้มันไม่จำเป็นต้องแพงที่สุด อันนี้เป็นความชอบส่วนตัวนะ คนเราความชอบ ไม่เหมือนกัน”

◆ เราจะเห็นโตโน่แต่ในมุมจริงจัง แต่พอโตโน่อยู่กับณิชา จะดูมุ้งมิ้งมาก?
โตโน่ – “ไม่ค่อยได้เจอ นานๆ ได้เจอกันก็จะไปรับเขาที่บ้าน พาไปกินข้าว ดูหนัง หรืออย่างล่าสุดก็พาไปเที่ยว ณิชาเป็นขั้วตรงข้ามกับผม ผมชอบสีดำ ณิชาอาจจะชอบสีชมพู ณิชาเป็นสีพาสเทล (ยิ้ม) เราสองคนต่างเป็นกำลังใจให้กัน มอบสิ่งดีๆ ให้กัน มันไม่ได้เป็นเรื่องของความรัก (ลากเสียงยาว) เวลาอยู่กับน้อง ผมก็เป็นตัวของตัวเอง อาจเพราะเราไม่ได้เริ่มมาจากเป็นแฟนกัน ฉันมาจีบเธอ มันเป็นตอนไหนก็ไม่รู้ เริ่มตอนไหนก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าคนคนนี้เรามีแต่ความหวังดีให้เขา อยากให้เขามีวันที่ดีมีความสุข พอเวลาผ่านไปหลายๆ ปี มันก็ผูกพันกันเรื่อยๆ ณิชาเป็นคนที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่สูงมาก การคิดวิธีคิดของเขาเป็นคนคิดดีแล้วก็มองโลกบวก ไม่ใช่มองโลกสวยนะ เขามองโลกดี”

◆ เขาเคยดุไหม?
โตโน่ – “ถึงดุก็ไม่น่ากลัว เขาน่ารักครับ (ยิ้ม) ไม่รู้จะอธิบายยังไง โกรธไม่ลง ให้เปรียบเหมือนเราเห็นกระต่าย จะทุบมันลงไหม เราก็ต้องค่อยๆ จับมัน กระต่ายไม่ได้น่ากลัว มันเป็นสิ่งที่เราต้องดูแล ควรทะนุถนอม ณิชาเขาเป็นสีขาวของผม เพราะก่อนจะเจอเขา ผมก็เต็มไปด้วยสีดำ หมายถึงจิตใจของผมเอง แม้กระทั่งตอนนี้ผมก็ยังมีสีดำอยู่ โชคดีที่ผมได้ณิชา ต้องตา คุณแม่ผม เพื่อนผม ทุกคนช่วยทำให้ผมอยากจะเป็นคนที่ดีขึ้น”

◆ ทำไมเรารู้สึกว่าเราเป็นคนที่เต็มไปด้วยสีดำ?
โตโน่ – “ผมไม่ได้รู้สึก ผมเป็นคนอย่างนั้นจริงๆ เป็นมาตั้งแต่เด็ก ผมเชื่อว่าทุกคนมีสีนั้นอยู่ ทุกคนมีด้านดีด้านเลวอยู่ในตัว เพียงแค่เราจะควบคุมมันได้ไหม ซึ่งผมก็ควบคุมมันได้บ้างไม่ได้บ้าง พอผมได้เจอคนดีๆ เหล่านี้ มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมอยากจะดีขึ้น ผมมีทั้งดีและร้ายในตัว มันขึ้นอยู่กับว่าจะหยิบอันไหนมาใช้ในงานผมได้บ้าง อย่างเวลาเล่นคอนเสิร์ต คนดูอยากได้ความสุขกลับไปบ้าน ผมก็เก็บสิ่งที่เป็นลบไว้ และมอบสิ่งดีๆ ให้ สิ่งที่เลวๆ ก็รู้จักควบคุมมัน”

◆ มีหลุดสิ่งที่ไม่ดีออกมาบ้างไหม?
โตโน่ – “มีครับ บางอย่างผมเอามาใช้ในงานผมนะ เพลงบางเพลงที่พวกเราทำกันมา พ่ายลม หลีกร้อน ผมก็ปล่อยความเก็บกด หรือบางทีเวลาเล่นคอนเสิร์ตผมก็ปล่อยความดาร์กออกมาผ่านเพลง คือเราระบายมันออกมาในทางที่ดี”

◆ อีกเรื่องท่าเต้นสุดฮิตของเรา?
โตโน่ – “พี่รู้จักผมมาตั้งแต่ประกวดเดอะสตาร์ ไม่มีใครเต้นห่วยเท่าผมแล้ว (หัวเราะ) ผมเป็นคนไม่มีทักษะเรื่องการเต้น แล้วคิดว่ามันตลกไหมที่ท่าเต้นผมเป็นไวรัล มันไม่ได้เป็นสิ่งที่อยู่ในตัวผมเลย ก็ตลกและสนุกดี (หัวเราะ)”

◆ ปีใหม่นี้อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ?
โตโน่ – “ขอให้แฟนๆ ทุกคนมีความสุข สมหวังในทุกๆ เรื่อง ตราบใดที่ยังหายใจอยู่ มันก็คงต้องมีปัญหาเข้ามาบ้าง แต่ขอให้ ทุกคนที่เจอปัญหา จากปัญหาให้กลายเป็นดี มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาและมีกำลังใจในการใช้ชีวิต สิ่งสำคัญคือ ถ้างานและสิ่งที่ทุกๆ คนกำลังทำอยู่สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้ใครได้ ก็ขอให้ช่วยกันทำครับ”

◆ มีพร 3 ข้อ อยากขออะไรบ้าง?
โตโน่ – “ข้อแรกอยากให้พวกเราแก้เรื่องโลกร้อนได้ครับ (หัวเราะ) ถ้าเกิดยังเป็นแบบนี้ต่อไป ฝนจะมากขึ้น น้ำท่วมหนักขึ้น แล้งก็หนักขึ้น หน้าร้อนก็จะร้อนมาก ฤดูฝน ฝนก็จะหนักมาก ถ้าเรายังไม่ช่วยแก้ที่ต้นเหตุมันจะยิ่งโหดร้ายมากขึ้น ข้อที่สอง อยากทัวร์คอนเสิร์ตกับวงวงนี้ (Tono & The Dust) ไปจนแก่เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหน จังหวัดไหน หรือที่ไหนก็ตาม อยากไปด้วยกันกับเพื่อนๆ ข้อสุดท้าย อยากให้ทุกคนได้ดูหนัง ขุนพันธ์ 3 ครับ”

อนงค์ จันทร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน