รอยเตอร์รายงานวันที่ 8 ม.ค.ว่า กองกำลังรัสเซียหวนโจมตียูเครนอีกครั้งหลังสิ้นสุดช่วงเวลาหย่าศึก 36 ชั่วโมงที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ 6 ม.ค. เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสของนิกายออร์ทอดอกซ์
ด้านนายเซอร์เก คิริเยนโก รองหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย แถลงว่ากองกำลังรัสเซียจะเดินหน้าปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนต่อไป “ภารกิจที่ สั่งการโดยท่านประธานาธิบดีปูตินเพื่อปฏิบัติการพิเศษทางการทหารจะถูกเติมเต็ม และจะมีชัยชนะอย่างแน่นอน” นายคิริเยนโกระบุผ่านสำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซีย
ขณะที่ทางการท้องถิ่นแคว้นคาร์คิฟทางตะวันออกของยูเครนเปิดเผยว่า ไม่นานหลังเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมารัสเซียระดมยิงในพื้นที่แคว้นคาร์คิฟ และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง รวมถึงชายวัย 50 ปี
ส่วนนายพาฟโล คิรีย์เลนโก ผู้ว่าการแคว้นโดเนตสก์ ระบุว่ากองกำลังรัสเซียยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 9 ลูก ในจำนวนนี้ 7 ลูกพุ่งเป้าโจมตีเมืองกรามาตอสก์ ทางตอนเหนือของแคว้น แต่โชคดีที่ไม่มีประชาชนเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีรายงานการโจมตีในเมืองซาโปริฌเฌีย ซึ่งยังไม่พบผู้เสียชีวิต หรือบาดเจ็บรุนแรง
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนกล่าวถึงคำสั่งหยุดยิงชั่วคราวของนายปูตินว่า รัสเซียกำลังวางแผนโจมตียูเครนครั้งใหญ่ ด้านทำเนียบขาวของสหรัฐอเมริการะบุว่าความตั้งใจของรัสเซียยังไม่เปลี่ยนจากความพยายามยึดครองดินแดนในอธิปไตยของยูเครน ทั้งที่รัสเซียสูญเสียทรัพยากรและกำลังทหารอย่างมากก็ตาม
วันเดียวกันมีรายงานจับตาความเคลื่อนไหวของเบลารุส พันธมิตรเหนียวแน่นของรัสเซีย ภายหลังมีโพสต์เปิดเผยข้อมูลเบื้องลึกผ่านเทเลแกรมว่าทหารรัสเซียราว 1,400-1,600 นาย เดินทางเข้าสู่เมืองวีเชปสก์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเบลารุสในช่วง 2 วันที่ผ่านมา
