เพื่อส่งต่อโอกาสดีๆ ให้เด็กไทยในด้านการศึกษาและสาธารณสุข ตามเจตนารมณ์ของ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา มูลนิธิวิชัย ศรีวัฒนประภา ส่งมอบตู้อบเด็กทารกแรกเกิดให้โรงพยาบาลประจำอำเภอที่ขาดแคลน เพื่อสร้างโอกาสในการรอดชีวิต ต่อลมหายใจให้ทารก และมอบทุนการศึกษาให้เด็กที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เด็กเหล่านี้ได้เรียนหนังสือและนำความรู้ความสามารถไปใช้ประกอบอาชีพเลี้ยงดูครอบครัวและสร้างประโยชน์กลับคืนสู่สังคมต่อไป
มูลนิธิวิชัย ศรีวัฒนประภา เริ่มมอบตู้อบเด็กทารกแรกเกิดให้ โรงพยาบาลประจำอำเภอต่างๆ ตั้งแต่ปี 2562 ปัจจุบันมอบไปแล้วทั้งสิ้น 70 เครื่อง 70 โรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยแพทย์จาก 2 โรงพยาบาลที่ได้รับมอบตู้อบเด็กจากมูลนิธิ เล่าถึงความจำเป็นของ “ตู้อบเด็กทารกแรกเกิด”
พญ.ศศินิภา สิริสุทธิสุวรรณ กุมารแพทย์ชำนาญการ โรงพยาบาลหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร กล่าวว่าโรงพยาบาลหลังสวนมีปริมาณเด็กคลอดอยู่ที่ประมาณ 120 คนต่อเดือน เครื่องที่มูลนิธิบริจาคให้ โรงพยาบาลจะช่วยเพิ่มโอกาสให้เด็กวิกฤต เด็กคลอดก่อนกำหนด ได้อยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเหมาะสม เพิ่มอัตราความสำเร็จในการดูแลทารกแรกเกิด ลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น อุณหภูมิร่างกายต่ำเกินไปอาจติดเชื้อได้ ตู้นี้จำลองการอยู่ในท้องแม่ เป็นบ้านให้เด็ก ตู้อบเด็กที่ได้รับบริจาคนี้ทางโรงพยาบาลจะใช้ดูแลทารกได้มากขึ้น ไม่ต้องส่งต่อไปโรงพยาบาลจังหวัดหรือโรงพยาบาลที่ไกลขึ้น
ด้าน พญ.กอบกาญจน์ ชามพูนท สูตินรี แพทย์ โรงพยาบาลพรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก กล่าวว่า การที่มูลนิธิบริจาคตู้อบเด็กให้โรงพยาบาลสนับสนุนการทำงานได้มากขึ้น เพราะการส่งเด็กที่มีน้ำหนักน้อยหากเราไม่ใช้ตู้อบเด็กจะควบคุมอุณหภูมิไม่ได้ เราต้องควบคุมอุณหภูมิและการหายใจให้ดีก่อนส่งต่อไปโรงพยาบาลที่มีความพร้อมมากกว่า ก่อนหน้านี้ที่เรายังไม่มีตู้อบเด็กเครื่องใหม่ เราจำเป็นต้องใช้ถุงถั่วเขียวนำไปเวฟมาให้ความอบอุ่นเด็ก เสี่ยงเรื่องความร้อนที่มีมากเกินไปเพราะควบคุมอุณหภูมิไม่ได้ และถ้าเด็กตัวเย็นเกินไปจะทำให้เด็กหยุดหายใจได้ บางครั้งเด็กที่คลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวน้อย อายุครรภ์น้อย จำเป็นต้องส่งต่อไปรักษาที่ โรงพยาบาลพุทธชินราช ถ้าไม่มีตู้อบเด็กทารกสำหรับเคลื่อนย้ายจะค่อนข้างเสี่ยงเพราะระยะทางไกล มีโอกาสที่เด็กจะเสียชีวิตระหว่างส่งตัว
ในด้านการศึกษา มูลนิธิวิชัย ศรีวัฒนประภา สร้างโอกาสทางการศึกษาให้เด็กและเยาวชนที่เรียนดี ประพฤติดี มุ่งมั่น ขยันหมั่นเพียร แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ที่ต้องการศึกษาต่อ ด้วยการสนับสนุนทุน การศึกษาให้เยาวชนเหล่านี้เรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1, ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หรือ ปวช. 1 โดยมอบทุนการศึกษาให้จนจบระดับปริญญาตรี เป็นการติดอาวุธทางการศึกษา เป็นใบเบิกทางให้เด็กเติบโตและเพิ่มโอกาสในการพัฒนาทักษะวิชาชีพ อันจะเป็นหนทางในการเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มูลนิธิเริ่มให้ทุนการศึกษามาตั้งแต่ปี 2563 ปัจจุบันมีนักเรียนได้รับทุนแล้วทั้งสิ้น 41 คน
ด.ช.ระพีภัทร จันคำ หรือ น้องอ้น นักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนหนองแวงวิทยาคม อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร นักเรียนทุนรุ่นแรกของมูลนิธิ บอกเล่าว่าอาศัยอยู่กับยายอายุ 72 ปี ไม่มีรายได้อื่นนอกจากเบี้ยผู้สูงอายุ ดีใจมากที่ได้รับทุนการศึกษา หากไม่ได้รับทุนคงจะเรียนจบแค่ชั้น ม.6 เพราะที่บ้านยากจน เมื่อได้รับทุนแล้วทำให้เรียนต่อได้จนถึงปริญญาตรี เมื่อจบ ม.3 ตั้งใจจะสอบเข้าโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย จ.มุกดาหาร เพราะใฝ่ฝันอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ ขอบคุณมูลนิธิที่ให้โอกาสเรียนหนังสือจนจบปริญญาตรี จะตั้งใจเรียนและทำความฝันให้เป็นจริง เมื่อเรียนจบจะได้มีอาชีพเลี้ยงดูครอบครัว
น.ส.ดรุณี พลศร หรือ น้องไอซ์ นักเรียนชั้นม.6 โรงเรียนพรานกระต่ายพิทยาคม อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร นักเรียนทุนรุ่นแรก เผยความรู้สึกว่าดีใจที่ได้รับทุนการศึกษาของมูลนิธิ เพราะตอนแรกคิดว่าเมื่อจบ ม.3 คงไม่ได้เรียนต่อแล้วเนื่องจากปู่กับย่าไม่มีรายได้ ทำให้ชีวิตมีความหวังและมีโอกาสขึ้นมา ใฝ่ฝันอยากเป็นพยาบาล ตั้งใจว่าถ้าจบแล้วจะกลับมาทำงานเป็นพยาบาลดูแลคนในชุมชน ดูแลปู่กับย่าที่อายุมากแล้วและร่างกายไม่แข็งแรง
นับเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญของมูลนิธิวิชัย ศรีวัฒนประภา ในการส่งความสุข สร้างรอยยิ้ม ต่อลมหายใจ และมอบโอกาสให้เด็กและเยาวชนให้มีชีวิตและอนาคตที่ดีต่อไป
