กทม. – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณี บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอสซี) ยื่นฟ้อง กรุงเทพมหานคร (กทม.) กับพวก ครั้งที่ 2 กรณีไม่ชำระค่าจ้างให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2564 ถึงวันที่ 20 พ.ย.2565 ว่า กรณีที่บีทีเอส ฟ้อง กทม.กับพวกอีก 2 คนนั้น เป็นกระบวนการที่ต้องดำเนินการ ก็ดี สมมติถ้าไม่อยู่ในกระบวนการ จะทำให้เกิดปัญหามากขึ้น
นายชัชชาติกล่าวต่อว่า ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร (สภากทม.) เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับญัตติ เรื่องขอให้สภากทม.ตั้งคณะกรรมการวิสามัญศึกษาปัญหาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว และเสนอให้ตั้งคณะกรรมการวิสามัญขึ้นมาพิจารณาศึกษา จำนวน 23 คน โดยเป็นสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) จำนวน 18 คน และฝ่ายบริหาร 5 คน เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งต้องรอผลสรุปอีกครั้ง ส่วนทางด้านคดีก็ว่าไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ด้านนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม. ได้รายงานแจ้งให้ทราบกรณีดังกล่าวแล้ว ถือว่าเป็นสิทธิของบริษัทบีทีเอสซี ที่จะดำเนินการฟ้องร้อง ซึ่งเป็นการฟ้องครั้งที่ 2 เพื่อให้ชำระค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งเป็นช่วงเวลาต่อเนื่องจากการฟ้องจากครั้งที่ 1 ที่ให้ชำระค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตั้งแต่เดือน พ.ค.2562 ถึงเดือน มิ.ย.2565 โดยปัจจุบันการดำเนินการดังกล่าวอยู่ระหว่างการอุทธรณ์คดี
“การฟ้องคดีของบริษัทบีทีเอชซีครั้งที่ 2 น่าจะเป็นผลดีต่อกทม.ที่จะได้มีการชี้แจงข้อมูลรายละเอียดให้ศาลได้รับทราบ เพราะการฟ้องครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกัน กทม.ไม่สามารถชี้แจงข้อมูลได้ เนื่องจากเลยกำหนดเวลา ดังนั้นกทม.จะใช้โอกาสนี้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจากแหล่งต่างๆ ทั้งจากที่ปรึกษาบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือ เคที และจากคณะทำงานของ กทม.ที่ตั้งขึ้น ที่ได้มีการวิเคราะห์เรื่องการลงทุน การคำนวณค่าจ้างในการเดินรถที่เหมาะสม เพื่อรายงานต่อศาลรับทราบต่อไป” นายวิษณุกล่าว