คำให้การเหยื่อค้ามนุษย์ถูกหลอกทำงานเมียนมาร้อง ‘ปวีณา’ช่วยพ้นนรก

สดจากสนามข่าว

เศรษฐกิจโลกยังถูกกระหน่ำจากสารพัดวิกฤต แนวโน้มมีความไม่แน่นอนสูง พอมี คนบอกถึงงานที่มีรายได้ดีแม้ต้องไปทำงาน ที่ต่างประเทศ หลายคนรีบกระโจนใส่ด้วยความหวัง แต่สุดท้ายแล้วไม่ต่างกับแมลงเม่า ที่บินเข้ากองไฟ

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี จ.ปทุมธานี แม่และญาติ พา น.ส.เอ อายุ 24 ปี นายบี อายุ 18 ปี และ น.ส.ซี อายุ 22 ปี (ทั้งหมดนามสมมติ) เข้าพบ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอบคุณที่ได้ประสานช่วยเหลือเหยื่อทั้ง 3 คน รอดพ้นจากนรกบนดิน

เรื่องราวการช่วยเหลือทั้ง 3 คน เริ่มขึ้นวันที่ 4 ม.ค. แม่หญิงสาวชาว กทม. ร้องทุกข์ต่อมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ขอให้ช่วย น.ส.เอ (นามสมมติ) ลูกสาว อายุ 24 ปี ถูกรุ่นพี่ที่รู้จัก ชักชวนไปทำงานประชาสัมพันธ์ที่แม่สอดตั้งแต่เดือน ต.ค.65 อ้างว่ารายได้ดี

ต่อมาลูกสาวติดต่อกลับมาว่า ถูกหลอกให้ทำงานที่ร้านคาราโอเกะ KTV เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ต้องเสพยา ก่อนบังคับให้รับแขก ลูกสาวเล่าว่าทนทำงานไม่ไหว จึงถูกขายต่อ ถูกบังคับให้สร้างโปรไฟล์ปลอมในโซเชี่ยลหลอกคนต่างชาติลงทุนเทรดหุ้น ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ทางการเงินผ่านระบบออนไลน์

หากไม่ยอมทำงานก็ไม่ให้กินข้าว ข่มขู่ ได้กินข้าวแค่วันละ 1 มื้อ นอกจากนี้ยังมีเพื่อนอีก 2 คน คือ นายบี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี และน.ส.ซี (นามสมมติ) อายุ 22 ปี ก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน โดยนายจ้างคนจีนบอกว่าหากอยากกลับบ้านต้องหาเงินมาไถ่ตัว น.ส.เอ กับ นายบี คนละ 18,000 บาท และน.ส.ซี 49,000 บาท แต่ทั้ง 3 คนไม่มีเงินและเกรงว่าจะถูกทำร้ายหรือถูกขาย จึงได้ติดต่อแม่มาให้ขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ

หลังรับทราบเรื่องราวทั้งหมด นางปวีณาวิดีโอคอลคุยกับเหยื่อทั้ง 3 ราย โดยน.ส.เอเล่าว่า ทำงานโรงงานแห่งหนึ่ง มีเพื่อนได้ชักชวนไปทำงานที่แม่สอดแล้วพาข้ามไปประเทศเมียนมา โดยตนไม่รู้ว่าเป็นประเทศเมียนมา จากนั้นมีชายฉกรรจ์ถือปืนคุมตัว เข้าร้านคาราโอเกะ KTV ให้ตนทำงานรับลูกค้า บังคับให้เสพยา ตนทำไม่ไหว จึงถูกขายต่อไปทำงานอีกที่หนึ่ง ให้หลอกชาวต่างชาติซึ่งตนไม่ยอมทำจึงถูกกักตัว และให้กินข้าววันละมื้อ ให้หาเงินมาไถ่ตัว มิฉะนั้นจะส่งไปขายต่อ

นางปวีณา หงสกุล สอบถามข้อมูล

ลงพื้นที่รับฟังข้อมูล

จนท.รับที่ชายแดน

3 คนไทยพ้นนรกบนดิน

 

ส่วนนายบี (นามสมมติ) อายุ 18 ปีเล่าว่า มีอาชีพขับวินมอเตอร์ไซค์ ได้ตามแฟนน.ส.เอ ไปจึงถูกหลอกไปด้วยกัน ส่วนน.ส.ซีเล่าว่าทำงานโรงงานแห่งหนึ่ง ได้ตั้งครรภ์จึงลาออกจากงาน มีเพื่อนในเฟซบุ๊ก ชักชวนไปทำงานที่แม่สอด จ.ตาก โดยหลอกเข้าไปในเมืองเมียวดี บังคับให้หลอกชาวต่างชาติ ซึ่งตนทำไม่ได้ตามเป้าจึงถูกบังคับให้ หาเงินมาไถ่ตัว

ทั้งหมดเล่าตรงกันว่าต้องทนอยู่อย่างทุกข์ทรมาน นายจ้างคนจีนกักบริเวณออกไปไหนไม่ได้ มีคนคอยคุมอยู่ ให้กินข้าวแค่วันละมื้อ และนายจ้างคนจีนได้เร่งรัดให้หาเงินมาไถ่ตัวมิฉะนั้นจะขายต่อไปที่อื่น จึงได้ปรึกษากันและขอให้แม่ร้องทุกข์มายังมูลนิธิปวีณาฯ ขอให้ช่วยเหลือให้ได้กลับบ้านโดยเร็ว

นางปวีณา รีบประสาน พ.อ.ณรงค์ชัย เจริญชัย รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร ให้ประสานกับทางการเมียนมา เข้าช่วยเหลือเหยื่อทั้ง 3 ราย จนได้เดินทางกลับไทยในวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยเดินทางไปรับตัวบริเวณชายแดนด้วยตนเอง

ทั้งนี้นางปวีณากล่าวว่า ทางมูลนิธิปวีณาฯ ก็จะขยายผล ประสานตำรวจจับกุมผู้กระทำความผิด และขอเตือนภัยให้ทุกคนอย่าหลงเชื่อสื่อโซเชี่ยลโฆษณา ให้ไปทำงานได้รับเงินเดือนสูง ต้องถูกหลอกอยู่อย่างลำบาก ไม่มี งานสบายที่ได้เงินอย่างที่คิด และยังต้องไปทำงานที่ผิดกฎหมาย ถูกดำเนินคดีจำคุกในที่สุด และขอเป็นอุทาหรณ์เตือนคนไทย อย่าหลงเชื่อ ไม่มีงานสบายรายได้ดีที่ประเทศเมียนมา ถ้าเดินทางไปจะถูกบังคับให้ทำงานผิดกฎหมาย และถูกดำเนินคดีจำคุกในที่สุด

อีกหนึ่งตัวอย่างที่ยืนยันว่า งานสบาย รายได้ดี มันไม่มีอยู่จริง

นพรัตน์ คุ้มศรี, วสันต์ ทิพย์ประโภชน์
เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน