ธรรมชาติของคนร้ายหากไม่จำนนด้วยหลักฐานแล้วล่ะก็ ยากที่ความจริงทั้งหมดจะออกจากปาก มีแต่จะโยนความผิดให้เพื่อนเพื่อหวังให้ตัวเองได้รับโทษน้อยลง
เช่นคดีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ม.ค. ภายหลัง ร.ต.อ.เอกวิทย์ ทองทุ่ม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งเกิดเหตุมีรถยนต์ ไฟไหม้มีผู้เสียชีวิตติดภายในรถ เหตุเกิดบนถนนสายเลี่ยงเมืองลพบุรี ระหว่างหลัก ก.ม.ที่ 6-7 พื้นที่ ม.1 ต.กกโก จึงรีบประสานรถดับเพลิงเทศบาลตำบลกกโก และเทศบาลตำบลป่าตาลเข้าสกัดไฟ ก่อนนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.เมืองลพบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีเทา-ดำ ทะเบียน กล 5518 ลพบุรี อยู่ริมไหล่ถนน รถดับเพลิงฉีดน้ำจนสงบ พบในรถมีผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือ นายสุวิทย์ เกิดแก้ว หรือแตงไทย ท่าวุ้ง อายุ 45 ปี สภาพถูกไฟไหม้เกรียม
พฐ.เก็บหลักฐาน
สอบพยานในที่เกิดเหตุให้การว่า เดินทางมาจาก จ.สระบุรี มุ่งหน้า อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ขณะขับรถผ่านที่เกิดเหตุ พบรถคันดังกล่าวจอดชิดริมไหล่ทางโดยมีรถยนต์เก๋งสีขาว ไม่ทราบยี่ห้อ รุ่น และหมายเลขทะเบียนรถ จอดประกบอยู่ ก่อนจะมีแสงไฟลุกพึ่บในรถที่เกิดเหตุ จากนั้นรถเก๋งสีขาวปิดไฟหน้ารถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จึงรีบขับรถวนกลับไปดูและเห็นมีคนอยู่ภายในจึงรีบแจ้งตำรวจให้มาช่วยเหลือ
ขณะที่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณริมถนนพบห่างไปประมาณ 20-30 เมตร มีปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ 1 ปลอก เชื่อว่าไม่ใช่แค่อุบัติเหตุไฟไหม้รถอาจจะเป็นการฆาตกรรมอำพราง จึงประสานเจ้าหน้าที่พฐ.และแพทย์เวร ร.พ.อานันทมหิดล ร่วมชันสูตรพลิกศพ ก่อนพบมีร่องรอยกระสุนปืนยิงที่ขมับขวา 1 นัดทะลุท้ายทอย
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.พีระพงษ์ วงศ์สมาน รองผบช.ภาค 1 ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุและเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย เบื้องต้นตั้งประเด็นสังหารโหดไว้ 3 ประเด็น 1.ประเด็นเกี่ยวกับยาเสพติด โดยผู้ตายมีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติดรายสำคัญของลพบุรี และเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำได้ไม่นาน หากยังมีความเชื่อมโยงกันอยู่ จนเกิดหักหลังในธุรกิจมืด 2.ประเด็นการออกเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ที่ นายสุวิทย์ ซึ่งมีฉายาในวงการว่า แตงไทย ท่าวุ้ง มักมีความก้าวร้าวกับผู้ที่ติดค้าง หรืออาจจะมีการขัดผลประโยชน์ในเรื่องธุรกิจเงินกู้ และ 3.ประเด็นเรื่องชู้สาว
ขณะที่การข่าวเชิงลึก พบประเด็นการถูกสังหารโหดในครั้งนี้เนื่องมาจากนายสุวิทย์ยังมีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่เกิดการหักหลังกันตั้งแต่ก่อนอยู่ในเรือนจำ
แตงไท ท่าวุ้ง ผู้ตาย
ต่อมาวันที่ 18 ม.ค. พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ลงพื้นที่ เร่งรัดคดีก่อนเผย ว่า เบื้องต้นในการสังหารโหดครั้งนี้มาจากความขัดแย้งเรื่องส่วนตัวแน่นอน สิ่งที่ต้องการมากในขณะนี้ก็คือ ตัว 3 คนร้ายซึ่งอยู่ในระหว่างหลบหนี วันนี้จะมาแบ่งมอบงานให้แต่ละฝ่ายได้เร่ง ดำเนินการไล่ล่าติดตามคนร้าย ซึ่งพอจะทราบเบาะแสแล้ว
หลังจากตำรวจแกะรอยเบาะแสมาถูกทาง กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ทยอยชิงเข้ามอบตัวโดยเมื่อวันที่ 20 ม.ค. พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก.ภ.จว.ลพบุรี นำกำลังคุมตัวนายนิคม บุญหนัก หรือฉายา ต้น เคราแพะ อายุ 36 ปี หลังติดต่อขอเข้ามอบตัวที่ไร่อ้อยแห่งหนึ่ง ใน อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี
นายนิคม บุญหนัก อ้างแค่ขับรถ
นายนิคมอ้างว่า เป็นเพียงคนขับรถ และถูกให้ไปซื้อน้ำมันที่ปั๊มแห่งหนึ่งโดย ทราบเพียงว่าจะมาเอายาบ้าจากผู้ตายประมาณ 1 แสนเม็ด โดยไม่รู้มาก่อนว่าจะถึงขั้นยิงทิ้ง และเผาอำพราง โดยก่อนเกิดเหตุไปนั่งดื่มกินกับ นายนุพล หรือ อาร์ม ศรีมูล อายุ 32 ปี นายคัมภีร์ หรือ เหลา ลาเหลา อายุ 26 ปี ฉายาเบนซ์เล็ก ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุ 5 ก.ม. ก่อนโทรศัพท์นัดให้ผู้ตายไปรอที่จุดเกิดเหตุ จนเวลาประมาณ 23.35 น. วันที่ 16 ม.ค. จึงได้เดินทางมาจุดดังกล่าวพบ โดยที่ผู้ตายได้ขับรถมาจอดรออยู่ก่อนแล้ว
คุมนายคัมภีร์ ลาเหลา ทำแผนฯ
ตนอยู่บนรถกับนายคัมภีร์ โดยนายนุพลลงจากรถไปพูดคุยกับนายสุวิทย์เพียงสักครู่ ก่อนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด แล้วรถผู้ตายได้ไหลเอื่อยก่อนจอดสงบนิ่ง หลังจากนั้นรีบขับรถหลบหนีไป แต่ นายนุพลไม่แน่ใจว่านายสุวิทย์ตายจริงหรือไม่ จึงขับรถย้อนมาดูอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ โดยครั้งนี้นำน้ำมันเชื้อเพลิงที่เตรียมมาด้วย ก่อนที่นายนุพลจะลงจากรถราดน้ำมัน และเป็นคนลงมือจุดไฟเผาทั้งรถทั้งคน หลังจากนั้นได้แยกย้ายกันหลบหนี โดยไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย
หลังได้ข้อมูลตำรวจประสานตำรวจภูธรภาค 2 จับ นายคัมภีร์ ลาเหลา หรือ เบนซ์เล็ก อายุ 26 ปี ที่ได้บริเวณชายแดน จ.สระแก้ว โดยนายคัมภีร์ให้การว่ายืมรถซูซูกิ สีขาว ทะเบียน 4กผ 6568 กรุงเทพฯ มาจากญาติ ซึ่งทราบภายหลังว่าในรถมียาบ้าอยู่ในรถประมาณ 1 กระสอบ แต่ไม่ทราบจำนวน จึงนำไปโยนทิ้งหลังวัดกกโก ต.กกโก
ทั้งนายนิคมและนายคัมภีร์ต่างอ้างว่าเป็นแค่คนขับรถ โยนไปให้ นายนุพลหรืออาร์ม ที่ยังหลบหนีรับไปเต็มๆ หวังให้ได้รับโทษน้อยลง จึงเป็นเรื่องที่ตำรวจจะต้องติดตามจับกุมมือฆ่าและสอบสวนหาความจริงต่อไป
กฤษณ์ สนใจ / ทวีศักดิ์ เดชชู
เรื่อง/ภาพ
