สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปทรงเปิดอาคารเฉลิมพระเกียรติ 36 พรรษา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา วิชชาลัยดอนกอย วิถีแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน หมู่ที่ 2 ต.สว่าง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชานน วาสิกศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร พล.ต.นรธิป โพยนอก ผบ.พล.ร.3. พ.ต.อ.เทิดทูน สร้อยสุขพาพันธ์ รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ ประธานชมรมแม่บ้าน พัฒนาชุมชน ข้าราชการ และประชาชน ในพื้นที่เฝ้ารับเสด็จ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566

การนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงกดปุ่มไฟฟ้า เปิดแพรคลุมป้ายอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ จากนั้นเสด็จไปทอดพระเนตรการเตรียม เนื้อครามและสาธิตวิธีการย้อมครามที่ อาคารเตรียมเนื้อคราม แล้วเสด็จเข้าอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ ทอดพระเนตรไลฟ์สดการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของบ้าน ดอนกอยโมเดล การสาธิตการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ผ้าและเครื่องแต่งกาย นิทรรศการเกี่ยวกับภูมิปัญญาผ้า นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ นิทรรศการประวัติความเป็นมาของ “ดอนกอยโมเดล” และทอดพระเนตรการเตรียมเส้นใยการทอ และการแสดงพื้นถิ่นอำเภอพรรณานิคม

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เนื่องในโอกาสที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเจริญพระชนมายุครบ 3 รอบ เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2566 กระทรวงมหาดไทยน้อมนำแนวทางพระดำริ จัดสร้าง “อาคารเฉลิมพระเกียรติ 36 พรรษา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา วิชชาลัยดอนกอย วิถีแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน” เพื่อประกาศพระเกียรติคุณที่ทรงมีพระเมตตาต่อประชาชนคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บ้านดอนกอย ที่พระราชทานโครงการ พระดำริแห่งแรก “ดอนกอยโมเดล” ซึ่งก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ครั้งยิ่งใหญ่ และสร้างคุณประโยชน์กับประชาชนอย่างอเนกอนันต์ โดยปัจจุบันต่อยอดไปสู่โครงการ “ดอนกอยโมเดลสู่สากล”

“ศูนย์เรียนรู้ผ้าย้อมครามบ้านดอนกอย วิชชาลัยดอนกอย วิถีแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน จะเป็นแหล่งรวบรวมภูมิปัญญาเรื่องผ้าทอพื้นเมืองของจังหวัดสกลนคร เป็นแหล่งถ่ายทอดองค์ความรู้กระบวนการทอผ้า และเรียนรู้นวัตกรรมแก่ผู้ที่สนใจนำไปประกอบอาชีพ และเป็นต้นแบบการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โดยกระทรวงมหาดไทยขอน้อมนำ พระดำริในการเพิ่มคุณค่าและมูลค่า ยกระดับผลิตภัณฑ์ผ้าไทย ให้สามารถก้าวสู่ระดับสากล เพื่อวิถีชุมชนที่ยั่งยืนและสร้างสรรค์ คุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป” นายสุทธิพงษ์กล่าว








Advertisement

ด้าน นางถวิล อุปรี ประธานกลุ่มทอผ้าย้อมครามบ้านดอนกอย กล่าวว่า รู้สึกซาบซึ้งดีใจและสำนึกในพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ จากในอดีตพวกเราทอผ้าแบบโบราณตามวิถีชีวิตชาวบ้านโบราณดั้งเดิม ทอเฉพาะใช้ ใช้ทุกอย่างที่ทำ พระองค์ท่านพระราชทานเสริมให้ลายผ้ามีความหลากหลาย เพื่อให้ชุมชนเรามีรายได้ มีเงินไปดูแลครอบครัว ดูแลลูกหลานในชุมชน พระองค์ตรัสว่า “แม่ๆ หนูมานี่มาให้กำลังใจแม่ๆ นะ แม่ๆ อย่าขี้คร้านนะ” ทำให้พวกตนซาบซึ้งใน น้ำพระทัยของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงใช้พระหัตถ์จับเครื่องมือเครื่องทอต่างๆ ก็ได้แต่ทูลว่าเป็นห่วงพระองค์ กระทั่งตรัสตอบว่า “แม่ไม่ต้องห่วง หนูทำได้ หนูเคยตามเสด็จสมเด็จย่าบ่อยๆ” สิ่งเหล่านี้เหมือนความฝันที่กลายเป็นความจริงเกิดขึ้น

นางถวิลกล่าวต่อว่า นอกจากนี้สิ่งที่พวกเราทำไม่ได้ พระองค์โปรดให้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญลงมาช่วยให้แง่คิด ให้ข้อชี้แนะ ให้องค์ความรู้ แนวทางพระราชทานทำให้คุณภาพชีวิตคนในชุมชนดีขึ้น รายได้เพิ่มมากขึ้น ลักษณะลายผ้าเฉดสีมีมากขึ้น ทั้งครามน้ำหนึ่ง ครามน้ำสอง ครามน้ำกลาง และผสมผสานหลากหลาย จะน้อมนำถ่ายทอดให้ลูกหลานสืบสาน รักษา และพัฒนาต่อยอดต่อไปให้เกิดความยั่งยืน

“พวกเราทุกคนจะน้อมนำพระดำริที่พระองค์ทรงมีพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ มาทำให้วิชชาลัยดอนกอย วิถีแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้ลูกหลาน ให้ผู้ที่สนใจ เพื่อทำให้ผ้าไทยเป็นเครื่องมือแห่งการสร้างอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืน ทำให้คุณภาพชีวิตของพวกเราทุกคนและพี่น้องคนไทยทุกคนได้รับการพัฒนาอย่างยั่งยืน อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความจงรักภักดีด้วยหัวใจของพวกเราที่มีต่อพระองค์หญิง พระผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของ พวกเราทุกคนตลอดไป” นางถวิลกล่าว

นายสุทธิพงษ์กล่าวเสริมในตอนท้ายว่ากระทรวงมหาดไทยน้อมนำแนวพระดำริการพัฒนาหมู่บ้านยั่งยืนของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงริเริ่ม ณ บ้านดอนกอย มาขับเคลื่อนในปี 2566 ใน 76 จังหวัด ตำบลละ 1 หมู่บ้าน รวม 7,255 หมู่บ้าน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนให้ดูแลครอบครัว ดูแลหมู่บ้าน จนเป็นหมู่บ้านยั่งยืน เฉกเช่นบ้านดอนกอย อ.พรรณนิคม จ.สกลนคร เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 3 รอบ 36 พรรษา 8 มกราคม 2566 เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนทุกคนมีคุณภาพชีวิต ที่ดีอย่างยั่งยืน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน