ทรัพย์สินเงินทองสำหรับบางคนที่มีมากเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักคำว่าพอ นอกจากจะหาความสุขที่แท้จริงไม่พบแล้ว ยังกลายเป็นชนวนให้เกิดเหตุร้ายมานักต่อนัก
ย้อนไปเมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 26 ม.ค. พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรศรีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม พ.ต.ท.อนุสน สุขศิริสุวรรณ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ชัยยันต์ พรไกรเนตร สว.สส. ร.ต.ท.หญิง วิชญาพร โสภณคณาสาร รอง สว.สอบสวน พร้อมชุดสืบสวน ร่วมกับพ.ต.อ.ธนบดี บุญพา ผกก.กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 เจ้าหน้าที่ ชุดพิสูจน์หลักฐาน 7 เจ้าหน้าที่แพทย์เวร ร.พ.นครปฐม เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม เข้าตรวจสอบในร้านขายอาหาร ตามสั่งชื่อร้านครัวริมนา อาหารตามสั่ง ตั้งอยู่เลขที่ 245 หมู่ 7 ต.ดอนยายหอม อ.เมืองนครปฐม หลังมีคนถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต
บ้านที่เกิดเหตุ
ภายในห้องครัวของร้านพบศพ น.ส.ภัทรา อู่ทรัพย์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 7 ต.ดอนยายหอม อ.เมืองนครปฐม นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนพื้น สวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงขายาวสีเขียว สวมชุดกันเปื้อนสีเหลือง มีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าตามร่างกายรวม 7 แห่ง นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่เกลื่อนพื้นจำนวน 8 ปลอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บเป็นหลักฐาน
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่นั้น ได้รับแจ้งจาก ชาวบ้านว่ามีคนใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 10 หมู่ 7 ต.ดอนยายหอม อ.เมืองนครปฐม ซึ่งเป็นบ้านของน.ส.ภัทรา เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบว่าบ้านหลังดังกล่าวอยู่ในเนื้อที่กว่า 2 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด ที่หน้าบ้านมีรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีเงิน ทะเบียน กย 5978 นครปฐม
ปลอกกระสุนเกลื่อนร้าน
ที่ห้องรับแขกในบ้านพบศพของ นางสุกัญญา มีหว่าง (จิ๋ว) อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 8 หมู่ 7 ต.ดอนยายหอม อ.เมือง จ.นครปฐม อาชีพซื้อขายที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ เจ้าของโครงการหมู่บ้านจัดสรรในพื้นที่ จ.นครปฐม สภาพศพมีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ขมับขวา 1 นัด ในสภาพนั่งอยู่บนโซฟา มีเลือดไหลนอง นอกจากนี้ที่พื้นใกล้เท้ายังพบอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ 1 กระบอก และมีร่องรอยกระสุนทะลุจนกระจกแตกจำนวน 1 รู
นางวันเพ็ญ มีหว่าง อายุ 62 ปี ญาติของสามีมือปืน เล่าให้ฟังว่า นางสุกัญญามือปืนเป็นสะใภ้ที่แต่งเข้ามา มีอาชีพเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเป็นเจ้าของหมู่บ้าน ส่วนน.ส.ภัทรา เป็นน้องสาวของสามีมือปืน ปัญหาน่าจะมาจากเรื่องที่ดินมรดก 19 ไร่ เมื่อ 5 ปีก่อน ทางครอบครัวได้นำที่ดินมรดกไปจำนอง แต่หลังจากแม่เสียชีวิตและยังไม่ได้มีการแบ่งที่ดินให้กับลูกๆ
นางสุกัญญา มีหว่าง มือปืน
อยู่ๆ นางสุกัญญามือปืนก็เสนอว่าจะไปไถ่ถอนให้ แต่มีข้อแม้ว่า หากไถ่ถอนที่ดินออกมาแล้ว ที่ดินทั้งหมด 19 ไร่จะต้องลงชื่อของ นางสุกัญญาทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว ทำให้ทางน.ส.ภัทราและญาติสามีที่มีส่วนได้เสียในที่ดินไม่เห็นด้วย ทำให้นางสุกัญญาไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่นั้นมา 4-5 ปีนางสุกัญญาไม่เคยมาเยี่ยมหา หรือกลับมาติดต่อใดๆ อีกเลย แต่จะติดต่อมาหาน.ส.ภัทราคนเดียวเท่านั้น
นางวันเพ็ญให้การต่อว่า น.ส.ภัทราคอยเตือนมาตลอดว่า ถ้ารถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์คันนี้มาให้ระวัง ได้ข่าวว่าจะมายิง และวันนี้ตนพาหลานก็คือลูกของนางสุกัญญาไปตลาด ขณะอยู่ที่ ตลาดน.ส.ภัทรา โทร.มาบอกว่าอย่าเข้ามาร้านนะ จิ๋วมา จากนั้นไม่นานนักมีโทรศัพท์มาบอกว่าจิ๋วยิงน.ส.ภัทราตายคาร้าน แล้วไปยิงตัวตายที่บ้าน ถ้าวันนี้หลานไม่ชวนไปตลาด ก็คงอยู่ร้านและโดนยิงตายแน่นอน
นำศพน.ส.ภัทรา อู่ทรัพย์ ส่งชันสูตร
ขณะเกิดเหตุก็ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ว่าทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่องใดหรือไม่ อาจเป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากความเจ็บแค้นหรืออาฆาตเรื่องเก่า จึงทำให้ต้องลั่นปืนยิงสังหารจนหมดแม็ก เชื่อแน่ว่าหากตนและลูกของนางน.ส.ภัทราอยู่ด้วยอาจจะถูกยิงทิ้งทั้งหมดเลยก็เป็นได้
ขณะที่เพื่อนบ้านนางสุกัญญาเล่าว่า เห็นเจ้าตัวขับรถมาจอดที่ หน้าบ้าน จึงได้เดินออกมาดูแต่นางสุกัญญาเข้าประตูรั้วไม่ได้จึงปีนข้ามรั้วลวดหนามเข้ามา พร้อมกับถืออาวุธปืนอยู่ในมือ ตนเองตกใจได้แต่บอกว่าให้ใจเย็นๆ แต่นางสุกัญญาถือปืนเข้ามาพูดว่า อย่าเข้ามานะ พร้อมกับพูดต่ออีกว่า ใจดำกันนัก จากนั้นก็เดินเข้าบ้านไป สักพักมีเสียงปืนดังขึ้น
ภายหลังสอบสวนตำรวจสันนิษฐานว่า ชนวนเหตุน่าจะเกิดจากความคับแค้น และน้อยอกน้อยใจ ที่นางสุกัญญาคิดเองว่าถูกญาติสามีกีดกันส่วนแบ่งในมรดกที่ดิน ซึ่งความจริงที่ดินต่างๆ นั้นได้พูดคุยแบ่งกันไปหมดเมื่อนานมากแล้ว
หากใจไม่รู้จักพอ ต่อให้มีมากเท่าไหร่ก็ย่อมรู้สึกว่าไม่พอ
ยุวนิต สังวาลย์พานิช เรื่อง/ภาพ
