เมื่อวันที่ 28 มี.ค. นายอุตตม สาวนายน ประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดทำนโยบายพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวในการเสวนาเรื่อง “วิสัยทัศน์การขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทย” จัดโดยสภาอุตสาหกรรมฯ ที่โรงแรม เซ็นทาราฯ ว่า พปชร.เสนอว่า ต้องทำการขับเคลื่อนเศรษฐกิจคู่ขนานในสองมิติ คือ การแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประเทศ และเร่งรัดการวางรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจ ที่นำไปสู่ที่มาของนโยบาย 3 เร่งด่วน 8 เร่งรัด เพื่อพลิกฟื้นประเทศไทย

3 นโยบายเร่งด่วน คือการแก้ไขปัญหาครบทุกมิติ 1.แก้หนี้ประชาชนและผู้ประกอบการให้เบ็ดเสร็จ 2.ดูแลสวัสดิการคนไทย เสริมทักษะ และพัฒนาคนไทย โดยมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซึ่งเป็นบัตรเพื่อการพัฒนา และดูแลสวัสดิการ และ 3.การยกระดับคุณภาพชีวิตทุกช่วงวัย และการลงทุนปฐมวัย ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด

ขณะที่ 8 นโยบายเร่งรัด 1.ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมภาคเกษตร และวิสาหกิจชุมชน พร้อมเชื่อมโยงเข้ากับภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว 2.ยกเครื่องภาคอุตสาหกรรมเดิม สร้างเศรษฐกิจใหม่สู่อุตสาหกรรม เศรษฐกิจดิจิทัล และเศรษฐกิจฐานบีซีจี 3.เร่งพัฒนาพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะอีอีซี รวมถึงขยายพื้นที่ให้ทั่วทุกภาค 4.ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทั้งถนน ราง ทางน้ำ และอากาศ รวมถึงยกระดับโครงสร้างดิจิทัล พัฒนาเครือข่าย 5 จี ให้ครอบคลุมทั้งประเทศโดยเร็วที่สุด

5.พัฒนาทรัพยากรมนุษย์รองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต 6.ปฏิรูประบบราชการและแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรค 7.ปฏิรูประบบงบประมาณ และกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น และ 8.ต่อต้านคอร์รัปชั่นเต็ม รูปแบบ เพิ่มโทษนักการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นสองเท่า

พปชร.เสนอกลไก “กองทุนประชารัฐ 3 แสนล้านบาท” มากระชากให้เศรษฐกิจขับเคลื่อน เช่น การสนับสนุนระบบแฟรนไชส์ ปั้นให้เกิด 1,000 Super Franchisor เพื่อนำไปสู่ 100,000 Franchisee ให้เกิดผู้ประกอบการเชื่อมโยงกันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ สร้างรายได้กว่า 1 ล้านล้านบาท เป็นโมเดลหลายประเทศทำสำเร็จมาแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน