เมื่อครั้งที่ โตโยต้า ยาริส เอทีฟ เปิดตัวใหม่ๆ ‘ข่าวสด ยานยนต์’ มีโอกาสร่วมทริปทดสอบ แต่ด้วยระยะทางที่ค่อนข้างสั้น เวลาที่อยู่กับรถน้อย ทำให้รู้สึกว่าซึมซับอารมณ์รถไม่ได้เต็มที่

หาโอกาสในการขอยืมมาทดสอบแบบใช้งานจริงกันแบบยาวๆ แต่กว่าจะได้คิว ด้วยเพราะโตโยต้าต้องเร่งผลิตเพื่อส่งมอบลูกค้าที่จองกันถล่มทลายก่อนเป็นอันดับแรก

ล่าสุด ‘แขไข’ สุชญา เชียรแกล้วกล้า ผู้จัดการ ฝ่ายบริหารการตลาด และประชาสัมพันธ์สาวอารมณ์ดี แห่งค่ายโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย แจ้งว่ามีมาให้ทดสอบ พร้อมให้เข้าไปรับรถได้ในทันที เป็นรุ่นท็อป PREMIUM LUXURY

ถึงโตโยต้า อะไลฟ์ ถ.บางนา-ตราด ก.ม.3 ช่วงสาย แต่การจราจรไม่ได้บางตาเลยแม้แต่น้อย ยิ่งช่วงใกล้ วันหยุดยาว พี่ใหญ่ทั้งหลายเร่งรอบส่งของ วิ่งกันขวักไขว่เลยทีเดียว

แต่ด้วยบอดี้ของเจ้า โตโยต้า ยาริส เอทีฟ ที่กะทัดรัด พร้อมด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-iE

ที่มีม้าหนุ่มสุดคะนองอยู่ 94 แรงม้า แรงบิด 110 นิวตัน-เมตร ที่แม้ช่วงตีนต้นอาจจะไม่จี๊ดจ๊าดนัก แต่เมื่อทำความเร็วต่อเนื่องแล้ว คล่องแคล่วปราดเปรียวพอตัว

ลัดเลาะขึ้นทางด่วน ต่อเนื่องไปออกสายเอเชีย มุ่งหน้าสู่จ.ชัยนาท เพื่อนร่วมทางเต็มตลอด ดีว่าไหลตามกันไปได้เรื่อยๆ

ทำความเร็ว 40-50 ก.ม.ต่อช.ม. มีชะลอตัวบ้างเป็นบางครั้ง อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 14-15 ก.ม.ต่อลิตร ถือว่าไม่ธรรมดากับรูปแบบใช้ในเมือง

ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Sequential Shift มีรอยกระตุกบางๆ เวลาคิกดาวน์ หรือเติมคันเร่งเร็วๆ มีโหมดแมนวลที่หาได้ยากในรถอีโคคาร์ ไว้สำหรับเรียกกำลังมาใช้แบบปัจจุบันทันด่วน เวลาเร่งแซง หรือใช้เป็นเอนจิ้นเบรก

วิ่งวนไปมาจนระบบแจ้งเตือนน้ำมันใกล้หมดถังแสดงขึ้นมา ทำระยะทางไปได้ 532.6 ก.ม. อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 18.4 ก.ม.ต่อลิตร

ขากลับเข้ากทม. ถนนค่อนข้างโล่ง ทำความเร็วตามกฎหมายกำหนด สายเอเชีย เลนขวาสุด ไม่น้อยกว่า 100 ก.ม.ต่อช.ม. แต่ไม่เกิน 120 ก.ม.ต่อช.ม.

ต่อเมื่อมีรถที่เร็วกว่าตามหลังลงไปซ้าย 1 เลน แล้ววิ่งที่ความเร็วไม่เกิน 100 ก.ม.ต่อช.ม. ทำแบบนี้ตั้งแต่จ.ชัยนาท จนถึงกทม. อัตราสิ้นเปลืองทะลุ 20 ก.ม.ต่อลิตรไปพอสมควร

จังหวะทำความเร็วใกล้ 120 ก.ม.ต่อช.ม. ช่วงล่างยังนิ่ง แต่เสียงที่เข้ามาในห้องโดยสารเริ่มชัดเจนมากขึ้น ส่วนการเข้าโค้งไม่มีอาการหน้าดิ้นท้ายดื้อ เพียงแต่พวงมาลัยหน่วงมือขึ้นหน่อย ประมาณว่าต้องประคองเพิ่มอีกนิดหนึ่ง

กลับมาใช้ชีวิตในเมืองอีกครั้ง มองไปข้างหน้าเห็นฝุ่นหนาตา ดีว่ารถคันนี้มีระบบกรองฝุ่น PM 2.5 โดยมีสัญลักษณ์แสดงให้เห็นที่หน้าจอชัดเจน ชี้ที่สีเขียว อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย

น้ำมันถังที่สองเตือนใกล้หมด ครั้งนี้จัดไป 623.7 ก.ม. อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 20.2 ก.ม.ต่อลิตร ประหยัดได้ใจกันไปเลย เน้นขับในโหมด ECO หรือโหมดประหยัด เพราะเทียบแล้วแทบไม่ต่างจากโหมดมาตรฐาน ส่วนโหมด Power รู้สึกได้ถึงความดุดัน ร้อนแรงเกินจำเป็น

ดีไซน์ภายนอกให้ความรู้สึกหรูหรา แฝงอารมณ์สปอร์ตสไตล์ Fastback ด้านท้ายลาดลง ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มรถพรีเมียม ฝั่งยุโรป

ชุดไฟหน้าแบบ Full LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน กระจังหน้า กันชนหน้าขนาดใหญ่ พร้อมช่องดักอากาศดีไซน์เท่

ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding พร้อมไฟเลี้ยว LED แบบ Sequential ไฟวิ่งเป็นเส้นแนวนอน นอกจากทำให้รถดูเก๋ไก๋แล้วยังมองเห็นชัดเจน

ภายในดีไซน์ให้ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าคนไทยโดยเฉพาะ เบาะนั่งและคอนโซลหน้าบุหนังสีแดง

หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ช่องต่อ USB ด้านหน้า 2 จุด และหลังคอนโซลกลาง ใต้ช่องแอร์ สำหรับผู้โดยสารตอนหลังอีก 2 จุด

กล้องบันทึกหน้ารถติดตั้งจากโรงงาน เก็บสายเรียบร้อย อยู่ในตำแหน่งไม่บังสายตา

สาวออฟฟิศที่ใช้เวลาบนรถในการแต่งหน้าถูกใจสิ่งนี้แน่นอน กระจกแต่งหน้าบานใหญ่ที่ใหญ่จริง แทบเต็มแผงบังแดดด้านคนขับ แต่ฝั่งผู้โดยสารไม่มีนะ

ค่าตัวของเจ้า โตโยต้า ยาริส เอทีฟ PREMIUM LUXURY อยู่ที่ 699,000 บาท ขณะที่รุ่นเริ่มต้นราคาอยู่ที่ 549,000 บาท

นักเลงเก๋งเล็กแวะไปลองรถที่แรงพอตัว ประหยัดน่าพอใจ กับเจ้า โตโยต้า ยาริส เอทีฟ ได้ที่โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน