ภาพที่ตำรวจเห็นหลังเปิดประตูห้องพักในคอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่ง ย่านบางคอแหลม กรุงเทพฯ ราวกับหลุดออกมาจากฉากหนังสยองขวัญ
เพราะร่างไร้วิญญาณของนักท่องเที่ยวสาวชาวยูเครนที่นอนถูกผ้าคลุมไว้บนเตียง สยดสยองสั่นประสาทผู้พบเห็น ไม่เว้นแม้แต่เจ้าหน้าที่ซึ่งผ่านเรื่องอาชญากรรมมาอย่างโชกโชน
ย้อนหลังไปช่วงบ่ายวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.พงษ์พันธุ์ พลหาญ สว.สอบสวน สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งพบศพถูกฆ่าตายในห้อง บนชั้น 32 คอนโดมิเนียมชื่อดัง ริมถนนเจริญราษฎร์ แขวง บางโคล่ เขตบางคอแหลม
ภาพนาทีมือฆ่าหั่นซื้อเลื่อยกลับมาลงมือ
สารวัตรเวรผู้รับแจ้งรีบรายงานเหตุร้ายถึงผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ก่อนนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมพล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ดูแลงานสืบสวน พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วาทิตย์ โรจนไพฑูรย์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ศูนย์สืบสวนบช.น., บก.น.5 และ สน.วัดพระยาไกร เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช ร.พ.จุฬาฯ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ภายในห้องนอนยังเปิดเครื่องปรับอากาศไว้ พบศพน.ส.อโลนา เซฟเชนโก อายุ 25 ปี สัญชาติยูเครน สภาพศพนอนหงายในห้องนอน มีผ้าห่มลายสกอตสีขาวดำคลุมร่าง
เมื่อเปิดผ้าออกพบว่า มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่กลางอก 1 แห่ง แขนซ้ายตั้งแต่ช่วงเหนือข้อมือถูกหั่นจนขาดออกจากร่าง ตามเนื้อตัวยังมีร่องรอยถูกเลื่อยหลายแห่ง เฉพาะช่วงลำคอมีบาดแผลโดนใบเลื่อยจนหวิดขาด
สภาพในห้องถูกรื้อค้นข้าวของกระจัดกระจาย และมีเลื่อยเปื้อนเลือดตกอยู่
Advertisement
สอบสวนทราบว่า ห้องดังกล่าวเปิดให้ชาวต่างชาติเช่า ผู้ตายพักอาศัยอยู่กับแฟนหนุ่มชื่อนายลาโกดา ฟิลิปโปว์ อายุ 25 ปี สัญชาติโปแลนด์ เข้าไทยมาเมื่อวันที่ 29 เม.ย.
กระทั่งช่วงประมาณเที่ยงวันที่ผ่านมา นายลาโกดาเรียกรถแท็กซี่ให้มารับที่หน้าคอนโดฯ โดยท่าทางลุกลี้ลุกลนมีพิรุธ
รปภ.คอนโดฯ ผิดสังเกตเลยให้รออยู่ก่อนเพื่อขอตรวจสอบ แต่อีกฝ่ายไม่ยินยอมสั่งให้โชเฟอร์ออกรถไปทันที
หลังจาก รปภ.ไปปรึกษาเจ้าหน้าที่นิติบุคคลถึงความผิดปกติดังกล่าว รีบติดต่อเจ้าของห้องพักตัวจริงให้มาร่วมเปิดห้องพักเพื่อตรวจสอบ ทำให้พบศพน.ส.อโลนาจึงรีบแจ้งตำรวจทันที
น.ส.อโลนา เซฟเชนโก ยังยิ้มแย้มมีความสุขก่อนกลายเป็นศพ
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุเห็นภาพผู้ตายและนายลาโกดาเดินกลับเข้าห้องในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนวันที่ 12 ต่อเนื่องวันที่ 13 พ.ค. ทั้งคู่ยังหยอกล้อต่อกระซิกกันอย่างมีความสุข
ขณะที่ภาพอีกช่วงหนึ่งในเวลาประมาณเที่ยงวันที่ 14 พ.ค. นายลาโกดากลับเข้าห้องเพียงลำพังโดยในมือถือสิ่งของที่คล้ายเลื่อยแบบที่ตกอยู่ในห้อง สุดท้ายเป็นกล้องวงจรปิดมุมภาพภายในลิฟต์เห็นนายลาโกดาพร้อมกระเป๋าเดินทาง ก่อนขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไป
เมื่อตรวจสอบกล้องด้านหน้าคอนโดฯ จับภาพและหมายเลขทะเบียนรถได้ชัดเจนจึงแกะรอยกล้องจราจรจนพบเส้นทางหลบหนี พร้อมประสานสหกรณ์รถแท็กซี่ที่ติดข้างประตูรถ กระทั่งทราบว่านายลาโกดาจ้างให้พาไปส่งชายแดนในพื้นที่ จ.สระแก้ว ในราคา 1,500 บาท
นายลาโกดา ฟิลิปโปว์ ในลิฟต์วันหนี
เมื่อได้เบาะแสชัดเจนจึงประสานให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคง ทหารและตำรวจที่ประจำบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชาทันที
เพียงไม่นานเจ้าหน้าที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญ ประเทศ จ.สระแก้ว ตรวจพบชายชาวต่างชาติมีรูปพรรณสัณฐานคล้ายผู้ต้องสงสัย
ร.ท.ถาวร บุญเพ็ง ผบ.ร้อย ทพ.1032 ร่วมกับตม.สระแก้ว และตำรวจท่องเที่ยว เข้าตรวจสอบแล้วก็ใช่นายลาโกดาจริงๆ และยังพบตรวจสอบหนังสือเดินทางน.ส.อโลนาเหยื่อฆ่าหั่นศพสยองเมืองกรุง จึงประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.วัดพระยาไกร และ บก.น.5 รับตัวกลับไปดำเนินคดีในช่วงค่ำวันเดียวกัน
คุมตัวส่งฝากขัง
หลังปล่อยให้นอนในห้องขังเพื่อสำนึกในความผิดที่เพิ่งก่อขึ้นสดๆ ร้อนๆ มา 1 คืน เช้าวันที่ 16 พ.ค. ผู้ต้องหาไม่ได้มีอาการผิดปกติหรือมีอาการเครียด คงนอนหลับได้ตามปกติ และช่วงเช้าก็รับประทานอาหาร ดื่มกาแฟ และยังมีการออกกำลังกายอยู่ในห้องขัง พนักงานสอบสวนจึงเบิกตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำต่อหน้าเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตโปแลนด์ประจำประเทศไทย
หลังเค้นสอบปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมง ผู้ต้องหาไม่ให้ความ ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ยืนยันขอให้ปากคำต่อศาลเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากนั้นส่งฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ทันที โดยที่ผู้ต้องหามีสีหน้าเรียบเฉยไร้อาการสะทกสะท้าน
ตำรวจนครบาลใช้เวลาไม่ทันข้ามวันก็ปิดคดีสยองขวัญเมืองกรุงได้สำเร็จอย่างสวยงาม
ไตรรัตน์ มีวงษ์ / ประสาน โพธิ์ทอง
พนม คงเจริญ / พิรยุทธ นิ่มนนท์
สราวุฒิ ศรีเพ็ชรสัย – เรื่อง/ภาพ
