มีคำยืนยันจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้วว่า ไม่มีความคิดที่จะลาออกจากหัวหน้าพรรค ยังไม่คิดจะถอยออกจากการเมือง รวมทั้ง ไม่มีการสลายพรรคพลังประชารัฐ เพื่อไปรวมเข้ากับ พรรคเพื่อไทย
ทั้งหมดนี้ บิ๊กป้อมบอกว่า ควรไปถามคนที่วิเคราะห์ คนที่คิด คนที่พูดเรื่องนี้ออกมา เพราะตนเองไม่เคยคิดอะไรเช่นนั้น
อันที่จริงถ้าตรวจสอบข้อมูลข่าวสารให้ดีก็จะพบว่า ถึงขณะนี้พล.อ.ประวิตรและพรรคพลังประชารัฐ ยังไม่มีความคิดจะเปลี่ยนแปลงอะไร
แถมมีความเคลื่อนไหว เตรียมดูดส.ส.จากบางพรรค เข้ามาเพิ่มเพื่อให้จำนวนส.ส.พลังประชารัฐ เป็นกอบเป็นกำมากขึ้น
เรื่องสลายพรรคพลังประชารัฐ แล้วขนส.ส.เข้าไปรวมกับเพื่อไทย ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยในระยะนี้
เพราะสูตรรัฐบาลก้าวไกล รวมกับเพื่อไทย รวม 8 พรรคยังหนักแน่นมั่นคงอยู่!
สถานการณ์การเมืองหลังการเลือกตั้ง ยังต้องเฝ้ารอ การรับรองส.ส.จากกกต.ให้ครบ 95% เพื่อนำไปสู่การเปิดสภา
ยังต้องเฝ้ารอไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม จึงจะเห็นอะไรชัดเจนขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สูตรการตั้งรัฐบาลของพรรค ก้าวไกล รวมกับอีก 7 พรรค 313 เสียง ลงเอยจะฝ่าด่านส.ว.ได้หรือไม่ ยังต้องลุ้นระทึกกันต่อไป
ทั้งนี้คาดว่ากลางกรกฎาคม การรับรองส.ส.คงครบถ้วน ปลายเดือนกรกฎาคม จะเปิดสภาผู้แทนฯเพื่อเลือกประธานสภา
ต้นสิงหาคม จึงเป็นวาระสำคัญเลือกนายกรัฐมนตรี ถึงวันนั้นจะรู้กันว่าการเมืองจะเดินไปตามสูตรนี้หรือพลิกผัน!?!
ถึงเวลานี้ การจับมือของ 2 พรรคหลักฝ่ายประชาธิปไตย ก้าวไกลและเพื่อไทยยังมั่นคง ไม่แปรเปลี่ยน
โอกาสสอดแทรกจากพรรคอื่น นอกเหนือจาก 8 พรรค ที่เซ็นเอ็มโอยูกันไปแล้วนั้น ยังเป็นไปไม่ได้
ยกเว้นหากชื่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ โดนสกัดจนไปไม่ได้จริงๆ นั่นจึงจะเป็นช่วงเวลาสำคัญของการเมืองไทย!
จะร้อนระอุถึงจุดแตกหักหรือไม่ รัฐบาลจะพลิกขั้ว หรือไม่
สำหรับพลังประชารัฐ เชื่อว่าจะไม่มีการสลายตัวอะไร ยังคงซุ่มซ่อนรอคอยโอกาส เฝ้ารอดูสถานการณ์ของสูตรรัฐบาลก้าวไกลว่าจะไปได้หรือสะดุดล้ม
รวมทั้งอาจจะขยายตัวจาก 41 เพิ่มขึ้นไปอีกก็ได้
ไปๆ มาๆ ที่น่าห่วงมากกว่า กลับเป็นพรรคของ อีกลุง ซึ่งได้ส.ส. 36 เสียง น้อยกว่า!!
ลุงผู้นำรวมไทยสร้างชาติ ซึ่งหมดโอกาสแล้วสำหรับ แคนดิเดตนายกฯ คนนี้ มีแต่จะต้องวางมือและกลับบ้าน
แล้วผู้นำพรรคคงยากจะคุมส.ส.ได้ น่าจับตาว่าอะไร จะเกิดขึ้น
ลุงป้อมนั้นท่าทางยังพอเดินต่อไหว ส่วนลุงตู่ คงเดินกลับบ้านไปมากกว่า!