พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ กิตติจิตโต เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม นำคณะสงฆ์จัดพิธีน้อมรำลึก 111 ปีชาตกาล ครบ 18 ปี หลวงพ่อพูล อัตตรักโข ละสังขาร และแสดงความกตัญญูกตเวทิตา ในพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ ครอบเศียรหนุมานวายุบุตร

มีพุทธศาสนิกชน ศิษยานุศิษย์จากทั่วสารทิศ เหล่าศิลปินดาราและบุคคลมีชื่อเสียงเข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียง ที่ศาลาทองคำที่ประดิษฐานสรีรสังขาร พระมงคลสิทธิการ (หลวงพ่อพูล อัตตรักโข)

บรรยากาศภายในพิธี หลวงพี่น้ำฝนเป็นประธานนำคณะสงฆ์สวดเจริญพระพุทธมนต์ ต่อหน้าสรีรสังขารหลวงพ่อพูล ซึ่งบรรจุ อยู่ในโลงแก้วบนตักปฏิมากรรมรูปหล่อ หลวงพ่อพูล นั่งอยู่บนหนุมานวายุบุตร จากนั้นเป็นพิธีการไหว้ครูบูรพาจารย์ ครอบเศียรหนุมานวายุบุตร

โดยมีศิษยานุศิษย์ต่อคิวเข้าพิธี เพื่อรับความเป็นมงคลและน้อมรำลึกถึงบารมี หลวงพ่อพูล เกจิดังตำนานแห่งจังหวัดนครปฐม

ในปี พ.ศ.2566 เหล่าศิลปินดารา รวมตัวเข้าร่วมในพิธีสำคัญประจำปี นับตั้งแต่ครั้งหลวงพ่อพูลยังคงอยู่จนถึงวันนี้ เข้าสู่ปีที่ 18 เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่ปรากฏในวัดไผ่ล้อมที่ปรากฏขึ้นทุกปี

การจัดพิธีวันวิสาขบูชารำลึก หลวงพ่อพูล และพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ ครอบเศียรหนุมานวายุบุตร เป็นพิธีที่จัดขึ้นต่อเนื่อง หลังจาก ละสังขารเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2548 ตรงกับวันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นเรื่องอัศจรรย์ นับถึงวันนี้เข้าสู่ปีที่ 18 โดยยังมีศิษยานุศิษย์ที่ให้ความศรัทธามากราบไหว้ขอพรตลอดมาอย่างไม่ขาดสาย








Advertisement

เป้าหมายให้รำลึกถึงคุณงามความดีของท่านและเป็นการเสริมสร้างกำลังใจให้กับผู้เข้าร่วมพิธีในการดำเนินชีวิตทั้งการทำงาน ประกอบการค้าหรือแม้แต่การประกอบธุรกิจ ส่วนการครอบเศียรหนุมานวายุบุตร เป็นการแสดงถึงความกตัญญูกตเวทิตา ซึ่งหนุมานมีความโดดเด่นชัดเจนเรื่องความกตัญญูเป็นที่ตั้ง นี่คือการให้สติกับญาติโยมให้จดจำคำสั่งสอนของหลวงพ่อพูลที่เคยให้ไว้ และปฏิบัติตนตั้งมั่นในความดีเป็นที่ตั้ง

หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม

กล่าวสำหรับ พระมงคลสิทธิการ หรือ หลวงพ่อพูล พระเกจิชื่อดัง

มีนามเดิมว่า พูล ปิ่นทอง เกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ย.2455 บ้านเกิดอยู่เลขที่ 75 หมู่ 5 ต.ดอนยายหอม อ.เมือง จ.นครปฐม

วันที่ 9 พ.ค.2480 เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดพระงาม อ.เมืองนครปฐม โดยมีพระครูอุตรการบดี (หลวงปู่สุข ปทุมสุวณฺโณ) เจ้าอาวาสวัดห้วยจระเข้ เป็นพระอุปัชฌาย์

เริ่มต้นศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย สอบได้นักธรรมตรี พ.ศ.2482

ระหว่างนี้ ให้ความสนใจศึกษาด้านการเจริญสมาธิจิต ฝึกฝนวิปัสสนา ควบคู่กับการศึกษาวิชาจากคัมภีร์ต่างๆ จากปู่ ด้วยพื้นฐานความรู้ที่มีอยู่ ทำให้ท่านศึกษาถ่ายทอด พุทธาคมได้อย่างรวดเร็ว

ที่วัดพระงามแห่งนี้ มีโอกาสฝากตัวเป็นศิษย์พระเถระชื่อดังหลายรูปด้วยกัน อาทิ หลวงพ่อพร้อม พระเกจิอาจารย์รุ่นสงครามอินโดจีน, หลวงปู่สุข วัดห้วยจรเข้, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เป็นต้น

โดยเฉพาะหลวงพ่อเงิน ให้ความเมตตาเป็นพิเศษ ให้คำแนะนำสั่งสอนเรื่องการเจริญสมาธิภาวนา การเขียนอักขระเลขยันต์ การปลุกเสกวัตถุมงคล วิชาอาคมต่างๆ อย่างไม่หวงวิชา

เมื่อได้รับคำแนะนำสั่งสอนจนเกิดความมั่นใจแล้ว จึงออกธุดงค์ไปตามป่าเขา ลำเนาไพร มุ่งหน้าไปทางลพบุรี นครสวรรค์ พิษณุโลก แสวงหาความวิเวกอยู่พื้นที่ภาคเหนือ เพื่อลดละกิเลส อานิสงส์การธุดงควัตร ทำให้ท่านมีร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ สมาธิจิตสูง

พ.ศ.2490 ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ว่างลง คณะกรรมการสงฆ์ จ.นครปฐม แต่งตั้งให้รักษาการเจ้าอาวาส ต่อมาวันที่ 10 พ.ค.2492 จึงแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส อย่างเป็นทางการ

จากนั้น วัดไผ่ล้อมมีความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าตามลำดับ

นอกจากนี้ ยังเป็นผู้อุปถัมภ์สร้างโรงเรียนวัดไผ่ล้อม (พูลประชาอุปถัมภ์) เพื่อเป็นสถานศึกษาสำหรับเยาวชน

แม้อายุขัยเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่เคยว่างเว้นการปฏิบัติศาสนกิจ กลางวันจะฝึกสมาธิ ภาวนาจิต แผ่เมตตาให้แก่สรรพสัตว์ทั้งปวง อันเป็นหนทางแห่งการไม่ยึดติดวัตถุจนเกิดกิเลส

บ่ายวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค.2548 เวลา 14.55 น. หลวงพ่อพูล มรณภาพอย่างสงบ ด้วยวัย 94 ปี พรรษา 68

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน