นายชวลิต โรจนรัตน์ นายอำเภอไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายกิตติ ชินเจริญธรรม หัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และคณะ เดินทางไปยังวัดโพธาราม (วัดเหนือ) พื้นที่หมู่ที่ 3 ต.พุมเรียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี หลังได้รับแจ้งข่าวจากชาวบ้านว่า ที่บริเวณวัดดังกล่าว มีการขุดพบวัตถุโบราณ หลังมีการนำรถแบ๊กโฮเข้าปรับพื้นที่เพื่อก่อสร้างศาลามณฑปพระพุทธรูปสองพี่น้อง โดยขณะขุดดิน พบพานลักษณะเป็นเนื้อโลหะสีทอง ลายกลีบบัวซ้อนชั้น ขนาดหน้าพานกว้าง 8.4 เซนติเมตร สูง 5.2 เซนติเมตร ฐานสูง 1.7 เซนติเมตร ฐานล่างกว้าง 5.3 เซนติเมตร เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นวัตถุโบราณ จึงนำส่งมอบให้พระครูอธิการ สุภาส ถิรจิตโต เจ้าอาวาสวัดโพธาราม เป็นผู้เก็บรักษา

จากการสอบถามนายวรัญญู ชูศรี กรรมการวัด เล่าว่า เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการนำรถแบ๊กโฮเข้ามาปรับพื้นที่หน้าดิน เพื่อสร้างมณฑป ประดิษฐานพระพุทธรูปสองพี่น้อง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประจำหมู่บ้านคู่เมืองของชาวพุมเรียง ซึ่งขณะขุดปรับพื้นที่ลึกลงไปประมาณ 1.5 เมตร ปรากฏว่าได้ตักเอาเศษวัตถุต่างๆ จำพวกแก้ว, ถ้วย ที่แตกหักขึ้นมาจำนวนหนึ่ง ตนและกรรมการวัดทุกคน จึงได้ช่วยกันนำสิ่งของเหล่านั้นมาทำความสะอาด จนกระทั่งพบว่ามีพานโลหะสีทองใบดังกล่าวด้วย เมื่อนำไปให้ ร้านทองตรวจสอบก็พบว่าเป็นทองคำ น้ำหนัก 52.89 กรัม จึงมอบให้เจ้าอาวาสเก็บรักษาและแจ้งให้ทางราชการทราบ

ด้านนายกิติ ชินเจริญธรรม หัวหน้าพิพิธภัณฑสถา นแห่งชาติอำเภอไชยา กล่าวว่า ลักษณะวัตถุโบราณดังกล่าวเป็นประติมากรรมในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น อายุประมาณ 200 ปี ทำจากทองคำโบราณ ซึ่งบริเวณดังกล่าว ในแถบตำบลพุมเรียง มักจะมีการขุดพบวัตถุโบราณจำพวกเครื่องถ้วยชามสังคโลก ลูกปัด พระพุทธรูป และอื่นๆ อยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นพื้นที่ ซึ่งเป็นหัวเมืองเก่าของภาคใต้ ที่บ่งชี้ ถึงความเป็นเมืองที่มีอารยธรรมและความรุ่งเรืองมาก่อน โดยในพื้นที่อำเภอไชยา มีสิ่งปลูกสร้างที่ถูกขึ้นทะเบียน เป็นโบราณสถานและโบราณวัตถุจำนวนมาก จึงขอให้ ชาวบ้านช่วยกันดูแลรักษาทรัพย์สมบัติครั้งก่อนประวัติศาสตร์ เพื่ออนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานได้ศึกษาต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน