สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) ร่วมกับกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

จัดเสวนาวิชาการในหัวข้อ “บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ต้นทางสู่ยาเสพติด” เนื่องในวัน ต่อต้านยาเสพติดโลก 26 มิถุนายน ประจำปี 2566

นายสุรเชษฐ์ โพธิ์แสง รองเลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) กล่าวว่า สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) ได้รับความร่วมมือจากกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม ในการเก็บข้อมูลพฤติกรรมทางสุขภาพของเด็กและเยาวชนที่อยู่ในศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนและสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน 39 แห่งทั่วประเทศ เกี่ยวกับพฤติกรรมการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชนก่อนต้องโทษคดียาเสพติด 300 คน อายุเฉลี่ย 17 ปี ชาย 289 คน หญิง 11 คน พบเคยสูบบุหรี่มวน ร้อยละ 95.4 ในจำนวนนี้สูบทุกวัน ร้อยละ 84.5 และเคยสูบบุหรี่ไฟฟ้า ร้อยละ 79.3 ในจำนวนนี้สูบทุกวัน ร้อยละ 30.5

นายสุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า เมื่อจัดลำดับสารเสพติดที่ใช้ พบว่า ร้อยละ 80.7 เริ่มใช้บุหรี่มวนเป็นสารเสพติดชนิดแรก โดยร้อยละ 76 พัฒนาไปสู่การใช้ยาเสพติดอื่นๆ ยาเสพติดที่นิยมมากที่สุดคือ ยาเสพติดประเภทออกฤทธิ์ผสมผสาน กัญชา กระท่อม ร้อยละ 45.1 รองลงมาคือยาเสพติดประเภทกระตุ้นประสาท ยาบ้า (แอมเฟตามีน) ไอซ์ ยาอี ร้อยละ 40.5 ยาเสพติดประเภทกดประสาท ฝิ่น มอร์ฟีน เฮโรอีน สารระเหย ร้อยละ 8.9 และยาเสพติดประเภทหลอนประสาท เช่น แอลเอสดี (LSD) เห็ดขี้ควาย สารระเหย ร้อยละ 5.5








Advertisement

“ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าเด็กและเยาวชนที่ต้องโทษคดีเกี่ยวกับยาเสพติด มีความสัมพันธ์กับบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า และแอลกอฮอล์มาอย่างต่อเนื่อง เด็กและเยาวชนที่เข้าถึงการสูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ตั้งแต่อายุยังน้อย จะเปลี่ยนมาเป็นทั้งผู้เสพและผู้ขายยาเสพติดในอนาคต ทำให้การปราบปรามยาเสพติดอาจยากลำบากมากขึ้น เนื่องในโอกาสวันต่อต้านยาเสพติด ประจำปี 2566 นี้ จึงขอเรียกร้องไปยังทุกส่วนราชการที่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับการป้องกันหรือปราบปรามยาเสพติด ขอให้ทุกส่วนร่วมกันรณรงค์ป้องกันเด็กและเยาวชน เข้าถึงบุหรี่ทุกชนิด บังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้น และที่สำคัญไม่ปรับแก้กฎหมายเพิ่มผลิตภัณฑ์เสพติดชนิดใหม่อย่างบุหรี่ไฟฟ้าด้วย” นายสุรเชษฐ์กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน