กลางป่าใหญ่ในเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท ต.บ้านหวด อ.งาว จ.ลำปาง มีแหล่งอันซีนที่สะกดสายตาของนักท่องเที่ยวที่เข้าไปเยี่ยมชม นั่นคือ ‘หล่มภูเขียว’ เกิดจากการยุบตัวของ เปลือกโลก กลายเป็นหลุมยุบ มีอายุกว่า 280 ล้านปี เป็นแอ่งน้ำใหญ่สีเขียวมรกต ลึกจน ไม่สามารถหยั่งถึง

นายธนากร สิงห์เชื้อ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท เล่าประวัติว่า เคยมีชาวบ้านเดินป่าเข้ามาพบแหล่งน้ำสีเขียวมรกต อยู่ภายใต้หุบเขาดังกล่าว จึงเรียกชื่อว่า ‘หล่มภูเขียว’ ส่วนหุบเขาอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามกันแต่ไม่มีน้ำ เรียกว่า ‘หล่มแล้ง’

ชาวบ้านเชื่อว่าหล่มภูเขียวเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีพญางูใหญ่อาศัยอยู่ จึงได้ทำพิธีบูชาน้ำเป็นประจำทุกปี

มีเรื่องเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่ว่า สมัยก่อนชาวบ้านจะนำขันข้าวพร้อมดอกไม้ธูปเทียนมาบูชา โดยนำไปวางบนขอนไม้และ ลอยไปกลางลำน้ำเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบึงน้ำ และได้ เกิดปรากฏการณ์ขอนไม้จมลงไปใต้น้ำแล้วลอยขึ้นมา โดยที่เทียนยังไม่ดับ จึงเกิดความเชื่อว่าแหล่งน้ำนี้เป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น ชาวบ้านจึงนำน้ำจากหล่มภูเขียวมาใช้ดื่มกินและอธิษฐานขอให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ และนำไปใช้ในพิธี อันศักดิ์สิทธิ์ของชาวบ้านตามความเชื่อสืบทอดกันมาถึงปัจจุบัน

ส่วนด้านธรณีวิทยา หล่มภูเขียวเกิดจากการยุบตัวลงมาของหินปูน ซึ่งเคยเป็นเพดานถ้ำมาก่อน แล้วจมลงใต้น้ำ เคยมีนักดำน้ำ ลงไปสำรวจในหล่มภูเขียว ซึ่งดำลึกลงไป 42 เมตร ก็เจอน้ำวน ไม่สามารถดำลงไปได้อีก เป็นความลึกที่ไม่อาจหยั่งถึงจริงๆ ส่วนบรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ มีปลาหลากหลายสายพันธุ์แหวกว่ายอาศัยอยู่ หล่มภูเขียวถูกล้อมรอบไปด้วยผาหินปูนสูงชัน ทำให้เกิดความงดงามอันลึกลับ สะกดสายตาของผู้ที่ได้มาเยือน

นอกจากหล่มภูเขียวแล้ว ในพื้นที่อุทยานฯ ถ้ำผาไท ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมาย อาทิ ถ้ำผาไท เป็นถ้ำมีความงดงาม เมื่อเข้าไปในถ้ำ จะพบกับหินงอกหินย้อย ที่ส่องประกายระยิบระยับเมื่อกระทบกับแสง เรียกว่าเป็นประติมากรรมที่สรรค์สร้างโดยธรรมชาติอย่างแท้จริง

สันนิษฐานว่าถูกค้นพบโดยพรานป่าล่าสัตว์ หรือจากการสำรวจทางหลวงแผ่นดิน ภายในถ้ำเป็นโถงขนาดใหญ่เกิดจากภูเขาหินปูน ความลึกจากปากถ้ำเข้าไปประมาณ 400 เมตร ด้านหน้าเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเพื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองถ้ำ ซึ่ง นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามากราบไหว้เพื่อความเป็น สิริมงคลได้

ตลอดเส้นทางอุทยานฯ ได้ติดตั้งไฟฟ้าเพื่อให้สะดวกในการเดินชม ‘หินงอกหินย้อย’ อีกทั้งยังมีค้างคาวจำนวนมากอาศัยอยู่ในถ้ำแห่งนี้

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เคย เสด็จประพาส พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชินีพระนางเจ้ารำไพพรรณี เมื่อ 13 มกราคม พ.ศ.2469 และทรงจารึกหลักฐาน พระปรมาภิไธยย่อ “ปปร.” ภายในถ้ำ

หัวหน้าอุทยานฯ ยังให้ข้อมูลว่า อุทยานฯ ถ้ำผาไท เป็นอุทยานขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 3 อำเภอใน จ.ลำปาง ได้แก่ อ.เมือง อ.แจ้ห่ม อ.งาว สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน เป็นป่าแบบเบญจพรรณและป่าเต็งรัง เต็มไปด้วย พันธุ์ไม้และสัตว์ป่ามากมายหลายชนิด ลักษณะภูมิประเทศทั่วไปเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์มาก มีสวนสักกระจายอยู่ทั่วไป เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์จำนวนมาก

พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธาร ชั้นที่ 160 มีจุดเด่นและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญ คือ ถ้ำผาไท หล่มภูเขียว ตามที่ได้แนะนำไป และยังมี อ่างเก็บน้ำเขื่อนกิ่วลม ถ้ำออกรู ห้วยแม่พลึง นอกจากนี้ยังมีน้ำตกขนาดเล็กกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป เช่น น้ำตกแม่แก้ อยู่บริเวณบ้านแม่แก้ อ.งาว เป็นน้ำตกขนาดเล็ก เกิดจากลำห้วยแม่แก้ถาโถมจากผาหินเกิดเป็นชั้นน้ำตกที่สวยงามท่ามกลางไม้ใหญ่ร่มรื่น

หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ มีบ้านพักบริการ และลานกางเต็นท์ เหมาะที่จะมาเที่ยวหลังฤดูฝนใหม่ๆ จะมีน้ำมาก ถึงหน้าแล้งยังคงมีน้ำพอเที่ยวได้ การเดินทางใช้เส้นทางรถยนต์จาก อ.งาว ถึงบริเวณน้ำตกแม่แก้ ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร

ถัดจากน้ำตกแม่แก้ไปอีก 1 กิโลเมตร เป็นน้ำตกเกาฟุ เกิดจากสายน้ำซึ่งไหลมาจากถ้ำราชคฤห์ เป็นน้ำตกหินปูน ได้รับการปรับแต่งทัศนียภาพให้มีความสวยงาม เป็นน้ำตกที่สร้างด้วยฝีมือชาวเขาเพียงคนเดียว โดยใช้เวลาสร้างนานนับสิบปี ชื่อของน้ำตกตั้งตามชื่อชาวไทยภูเขา ชื่อ เกาฟุ ซึ่งเป็นคนพบน้ำตกนี้เป็นคนแรก

ทุกจุดท่องเที่ยวในอุทยานแห่งนี้สามารถเยี่ยมชมได้ตลอดปี มีทั้งทางเดินศึกษาธรรมชาติ เที่ยวน้ำตก เที่ยวถ้ำ ศึกษาสภาพธรณี ชมประวัติศาสตร์ ภาพเขียนสีโบราณ ดูนก ดูผีเสื้อ ส่องสัตว์ ดูดาว ล่องเรือ พายเรือ ตั้งแคมป์พักแรม และเนื่องจากอุทยานฯ ถ้ำผาไท ยังเป็นอุทยานฯ (เตรียมการ) อยู่ จึงไม่มีค่าบริการธรรมเนียมค่าเข้าใดๆ ทั้งสิ้น

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติ ถ้ำผาไท จ.ลำปาง หรือ โทร.08-2936-7076

นนทวรรณ มนตรี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน